เทศนาวันอาทิตย์ 21/9/2025
ซีรีย์: ต้องแบบนี้ ....แล้วพระเจ้าจะอวยพร
หัวข้อ: คิดอย่างผู้ชนะ และดำเนินชีวิตจากตัวตนใหม่ที่ชนะแล้วนั้น!
สวัสดีครับ คุณกำลังอยูในซีรีย์ "ต้องแบบนี้ พระเจ้าจะอวยพร" ซึ่งซีรีย์นี้จะออกอากาศเฉพาะวันอาทิตย์ในทุกๆอาทิตย์นะครับ สำหรับวันนี้ เป็นตอนที่ 2 หัวข้อคือ "คิดอย่างผู้ชนะ และดำเนินชีวิตจากตัวตนใหม่ ที่ชนะแล้ว " โดยแบ่งปันจากข้อพระคัมภีร์หลัก: 2 โครินธ์ 5:17, โรม 12:2
พี่น้องครับ... คุณเคยรู้สึกเหมือนมีสงครามเกิดขึ้นในหัวของตัวเองบ้างไหมครับ? มีเสียงหนึ่งกระซิบว่า "ปัญหานี้มันใหญ่เกินไป... แกไม่รอดแน่" และก็มีอีกเสียงหนึ่งบอกว่า "แกมันไม่ดีพอ... พลาดมาเยอะเกินไปแล้ว" ในขณะเดียวกัน คุณก็พยายามเค้นอีกเสียงหนึ่งขึ้นมาสู้ "ฉันทำได้! ฉันต้องไม่คิดลบ ฉันต้องคิดบวก!"
พี่น้องที่รัก เราทุกคนต่างเคยเผชิญกับสงครามแบบนี้มาแล้วใช้ไหมครับ เป็นสงครามระหว่างภายในหัวของเรา ระหว่างความหวาดกลัว กับ ความเชื่อวางใจพระเจ้า ระหว่างความพ่ายแพ้กับชัยชนะ เคยใช่มั๊ยครับพี่น้อง?
และบ่อยครั้งที่เราคงเหนื่อยล้า กับการพยายาม "คิดบวก" ต่อต้านความคิดลบๆ แต่คำถามที่สำคัญคือ...
พลังในการเปลี่ยนแปลงความคิดของเรามาจากไหนกันแน่? มาจากการพยายามของเราเอง หรือมาจากที่อื่น?
วันนี้ เราจะมาค้นพบความจริงที่ว่า ชัยชนะในความคิดของเราไม่ได้เริ่มต้นที่ "ความพยายาม" ของเรา แต่เริ่มต้นที่ "ความจริง" เกี่ยวกับตัวตนของเราในพระเยซูคริสต์ต่างหากครับ
ก่อนที่คุณจะพูดถึงวิธี "คิด" มายเซ็ตของคุณ คุณควรเข้าใจก่อนว่า "ชัยชนะ" ของคุณมาจากไหน พี่น้องครับ ชัยชนะของคริสเตียนไม่ได้เกิดขึ้นในห้องประชุม หรือในหนังสือฮาวทู แต่ชัยชนะของเราเกิดขึ้นอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเมื่อสองพันปีก่อน ที่ไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ครับ
ใน โคโลสี 2:15 กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า
“พระองค์ทรงปลดเทพผู้ครองและศักดิเทพ พระองค์ทรงประจานพวกเขาอย่างเปิดเผย และมีชัยชนะเหนือพวกเขาโดยทางกางเขนนั้น”
นี่หมายความว่าอะไรครับ? หมายความว่า เราไม่ได้กำลังต่อสู้ เพื่อ ชัยชนะ แต่เรากำลังต่อสู้ จาก จุุดที่เราชนะแล้ว เป็นชัยชนะที่พระคริสต์ทรงทำสำเร็จแล้วเพื่อเรา! ศัตรูได้ถูกปลดอาวุธแล้ว สงครามหลักได้จบลงแล้วที่กางเขน และเพราะชัยชนะนั้นเอง ตัวตนของเราจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด
ใน 2 โครินธ์ 5:17 ยืนยันว่า
“ฉะนั้นถ้าใครอยู่ในพระคริสต์ เขาก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะ สิ่งใหม่ๆ ก็เข้ามา”
นี่เป็นจุดเริ่มต้นครับของคริสเตียนเราครับ! มันไม่ใช่พยายามคิดบวก แต่มันคือความจริงจากคัมภีร์ไบเบิลที่บ่งบอกถึงตัวตนใหม่ของคุณในพระคริสต์ คุณไม่ใช่คนขี้แพ้ที่พยายามจะคิดบวกแบบผู้ชนะ แต่คุณ "เป็น" ผู้มีชัยชนะแล้วในพระคริสต์ และตอนนี้คุณกำลังเรียนรู้ที่จะคิดและดำเนินชีวิตใหม่ให้สมกับที่คุณเป็นครับ
เมื่อคุณยึดมั่นในความจริงนี้ การเปลี่ยนแปลงความคิดหรือมายเซ็ต จึงไม่ใช่การ "ดิ้นรนพยายาม" อีกต่อไป แต่เป็นการ "ยอมรับ" ครับ
ใน โรม 12:2 ที่เราคุ้นเคยกันดี บอกว่า “...จงยอมรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่...” คำว่า "รับการเปลี่ยนแปลง" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการที่เราต้องดิ้นรนทำด้วยตัวเอง แต่หมายถึงการที่เรา ยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ เข้ามาปรับเปลี่ยนความคิดของเราจากภายใน ให้สอดคล้องกับความจริงว่าเราเป็นใครในพระคริสต์
ตัวอย่างชีวิตจริงเช่น
สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ และตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี ยอดขายตกลงอย่างน่าใจหาย ความคิดตามตัวตนเก่า ซึ่งเคยดำเนินชีวิตแบบศาสนา จะกระซิบว่า "แย่แล้ว... ฉันกำลังจะล้มเหลว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ฉันมันไม่เก่งพอ" ความคิดนี้นำไปสู่ความเครียด การนอนไม่หลับ และการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะความกลัว
แต่ความคิดตามตัวตนใหม่ ซึ่งดำเนินชีวิตแบบข่าวประเสริฐ จะเริ่มต้นจากการพักสงบในความจริง คุณจะพูดกับตัวเองทำนองว่า "เดี๋ยวก่อน... ตัวตนของฉันไม่ได้ผูกติดอยู่กับความสำเร็จของธุรกิจนี้ ฉันเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า และพระองค์ทรงเป็นผู้จัดเตรียมของฉัน (สดุดี 23:1)" จากนั้นความคิดนี้จะเปลี่ยนไปเป็นทำนองว่า "แม้สถานการณ์จะยากลำบาก แต่พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งฉัน (ฮีบรู 13:5) และพระองค์สามารถใช้ช่วงเวลานี้เพื่อสร้างอุปนิสัยแห่งความเชื่อและความอดทนในชีวิตฉันได้ (โรม 5:3-4)" และเจ้าความคิดใหม่นี้ ก็จะนำมาซึ่งสันติสุขและสติปัญญาในการแก้ปัญหาครับ
เห็นไหมครับ เราไม่ได้ปฏิเสธปัญหา แต่เราปฏิเสธที่จะให้ปัญหามานิยามตัวตนของเรา เราเลือกที่จะให้ความจริงของพระเจ้าเป็นสิ่งที่นิยามตัวตนของเราแทน
สำหรับคำสอนเรื่องผู้สอดแนม 12 คน ที่โมเสสส่งไปสอดแนมแผ่นดินคานาอัน มี 10 คนคิดลบ และมีเพียง 2 คนคิดบวก ตรงนี้คุณต้องเข้าใจว่า ผู้สอดแนม 10 คน ไม่ได้ผิดพลาดเพราะพวกเขา "คิดลบ" แต่พวกเขาผิดพลาดเพราะ "ไม่เชื่อ"ในพระสัญญาของพระเจ้าต่างหาก พวกเขามองที่ขนาดของ "ยักษ์" จนลืมขนาดของ "พระเจ้า"
ส่วนโยชูวาและคาเลบ ไม่ได้มีชัยชนะเพราะพวกเขาพยายาม "คิดบวก" แต่พวกเขามีชัยชนะเพราะ "เชื่อมั่น" ในพระสัญญาของพระเจ้า พวกเขามองที่ขนาดของ "พระเจ้า" ซึ่งยิ่งใหญ่กว่า "ยักษ์" ตรงหน้า
ดังนั้น ความมั่นใจของคริสเตียนเรา จึงไม่ได้อยู่ที่ "พลังความคิดบวก" ของตัวเรา แต่อยู่ที่ "พลังแท้จริงของพระเจ้า" ต่างหาก ที่เรากำลังคิดถึงอย่างเชื่อมั่นครับ
บางครั้ง... น้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ใช่การกำจัดยักษ์ออกไปให้พ้นทางเราทันที แต่คือการประทานพระคุณให้เราเผชิญหน้ากับมันอย่างมีสันติสุข อัครทูตเปาโลเองก็เคยอธิษฐานขอให้พระเจ้าเอา "หนามในเนื้อ" ออกไปจากท่านถึงสามครั้ง แต่คำตอบที่ท่านได้รับคืออะไรครับ?
ใน 2 โครินธ์ 12:9 เปาโลกล่าวว่า “แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘การมีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะว่าความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น’”
ดังนั้น พี่น้องที่รัก บางครั้งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการค้นพบว่าพระคุณของพระเจ้าเพียงพอสำหรับเราแล้วจริงๆ ท่ามกลางความอ่อนแอของเรานั่นเองครับ
วันนี้ผมอยากหนุนใจให้เราเลิกเหนื่อยกับการพยายาม "คิดบวก" เพื่อสร้างชัยชนะ แต่ให้เริ่มต้น "พักสงบ" ในชัยชนะที่พระคริสต์ได้ทรงประทานให้เราแล้ว
สงครามในความคิดยังคงมีอยู่จริงครับ แต่เราไม่ได้ต่อสู้ด้วยกำลังของเราเองอีกต่อไป เราต่อสู้โดยการยึดมั่นในความจริงว่าเรา "เป็นใคร" ในพระคริสต์ และยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำความคิดของเราให้สอดคล้องกับความจริงนั้น
ดังนั้น ความท้าทายสำหรับเราในวันนี้จึงไม่ใช่ "จงคิดบวก!" แต่คือ "จงเชื่อในตัวตนใหม่ของคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น!"
ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา แทนที่จะรีบคิดถึงปัญหา ให้เริ่มต้นด้วยการประกาศความจริงว่า "ฉันเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า ฉันเป็นผู้ชอบธรรม และฉันมีชัยชนะแล้วในพระคริสต์"
เมื่อความคิดแห่งความกลัวโจมตี ให้ตอบโต้ด้วยพระสัญญาของพระเจ้า
เมื่อรู้สึกอ่อนแอ ให้ขอบคุณพระเจ้าที่ฤทธานุภาพของพระองค์จะปรากฏในความอ่อนแอนั้น
เมื่อเราทำเช่นนี้ เราจะพบว่าสันติสุขของพระเจ้าจะเข้ามาครอบครองความคิดและจิตใจของเรา และเราจะสามารถคิดและดำเนินชีวิตอย่างผู้มีชัยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ด้วยการดิ้นรน แต่ด้วยการพักสงบในพระคุณครับ
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ...
ข้าแต่พระบิดา เราขอบพระคุณสำหรับชัยชนะอันสมบูรณ์ที่พระเยซูทรงทำสำเร็จแล้วที่กางเขน ขอบคุณที่โดยความเชื่อ เราได้กลายเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่ เป็นบุตรที่รัก และเป็นผู้มีชัยชนะร่วมกับพระองค์... พระเจ้าข้า เราขอสารภาพว่าบ่อยครั้งเราเหนื่อยล้ากับการต่อสู้ในความคิดด้วยกำลังของตัวเอง... วันนี้เราขอวางความพยายามนั้นลง และขอเลือกที่จะพักสงบในความจริงว่าเราเป็นใครในพระองค์ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำความคิดของเรา เปลี่ยนมุมมองของเรา และเติมเต็มเราด้วยสันติสุขที่เกินความเข้าใจ เพื่อที่เราจะสามารถคิดและดำเนินชีวิตอย่างสมกับเป็นบุตรของพระองค์ผู้ทรงพระชนม์ เราอธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เทศนาโดย...คุณบิ๊ก (นักธุรกิจคริสเตียน)