🙌 สวัสดีครับพี่น้อง คลิปนี้เป็นบทที่ 14 ของซีรีส์ **"ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์"** เราจะมาเฝ้าเดี่ยวและรับเรม่าห์จากพระคัมภีร์สดุดีด้วยกันครับ
🔥 **"คนโง่คิดในใจว่า ไม่มีพระเจ้า"** 🔥
👉 คำว่า "คนโง่" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงความโง่ทางสติปัญญา แต่หมายถึง **ความโง่ทางศีลธรรมและจิตวิญญาณ** คือ **คนที่ปฏิเสธพระเจ้าและดำเนินชีวิตโดยไม่มีพระองค์**
📖 **โรม 1:20** บอกว่า… _"เพราะว่าตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภาพที่มองไม่เห็นของพระเจ้า…ปรากฏชัดในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ดังนั้นมนุษย์จึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย"
💡 มนุษย์มากมายที่ปฏิเสธพระเจ้าเพียงเพราะ **เขามองไม่เห็นพระองค์** แต่กลับไม่คิดว่า 🌍 **จักรวาล โลก และสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?**
🔬 **ความซับซ้อนของธรรมชาติและดีเอ็นเอ ถูกออกแบบโดยใคร?** 🎥 ผมเองเคยเป็นคนที่ปฏิเสธพระเจ้า **แต่เมื่อผมได้รู้จักพระองค์ ชีวิตก็เปลี่ยนไปตลอดกาล**
💬 **ข้อ 2-3:** พระเจ้าทรงมองหาคนที่เข้าใจและแสวงหาพระองค์ แต่พบว่า **"ไม่มีผู้ใดที่ทำดีเลย แม้แต่คนเดียว"** 😢
📖 **โรม 3:10-12** … "ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า"
💡 **มนุษย์ทุกคนติดอยู่ในบาป และบาปที่ใหญ่ที่สุดก็คือ…** 💔 **"การปฏิเสธพระเจ้า"** 💔
แต่นี่คือเหตุผลที่ **พระเยซูเสด็จมา** 🩸 เพื่อยกบาปนี้ออกไป และคืนดีกับพระเจ้าอีกครั้ง 🙏
💬 **ข้อ 4-6:** คนอธรรมกดขี่ข่มเหงคนชอบธรรม แต่สุดท้าย **พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายคนชอบธรรม และจะปกป้องพวกเขา** ✨
💬 **ข้อ 7:** ดาวิดร้องขอให้ความรอดมาถึงอิสราเอล ซึ่งสำเร็จเป็นจริงในพระเยซูคริสต์ ✝️
🔥 **สรุป:**
📌 ดาวิดเริ่มต้นด้วย **การคร่ำครวญถึงความบาปของมนุษย์** และจบลงด้วย **การวางใจในพระเจ้า**
📌 **คริสเตียนสามารถระบายทุกสิ่งต่อพระเจ้าได้ แต่ต้องลงท้ายด้วยการสรรเสริญและขอบคุณพระองค์เสมอ** 🎶
💬 **📢 คำถามสำหรับคุณ 📢**
1️⃣ คุณเข้าใจความหมายของ **"คนโง่คิดในใจว่า ไม่มีพระเจ้า"** หรือยัง?
2️⃣ คุณยังสงสัยหรือปฏิเสธการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้าอยู่หรือไม่?
3️⃣ เมื่อเผชิญปัญหา คุณบ่น หรือคุณเลือกสรรเสริญพระเจ้าเหมือนดาวิด?
👇 **พิมพ์คอมเมนต์ใต้คลิปนี้ว่า คุณได้รับเรม่าห์อะไรจากสดุดีบทที่ 14!** 💬 🎶 **พรุ่งนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยกันอีกครั้ง** เพื่อรู้ถึงน้ำพระทัยดีเลิศของพระองค์ แล้วชีวิตคุณจะเป็นท่อพระพรต่อผู้คนมากมาย! 🙌✨ 📌 **กดไลก์ กดแชร์ และกดติดตามช่อง เพื่อไม่พลาดพระพรจากพระเจ้า**
💖 ขอพระเจ้าอวยพรครับ! ✨🙏
จัดทำคลิปโดย.... คุณบิ๊ก
พันธกิจ...Big Miracle
Line ID...BigBig477
www.bigmiracle.org
สวัสีดีครับพี่น้อง คลิปนี้เป็นบทที่ 14 ของซีรีย์ "ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์" ด้วยการเฝ้าเดี่ยวจากพระคัมภีร์ สดุดี
ผมจะสรุปย่อๆดังนี้
ข้อ 1 – ดาวิดกล่าวว่า "คนโง่รำพึงในใจของตนว่า 'ไม่มีพระเจ้า'"
ตรงนี้ คำว่า "คนโง่" (ภาษาฮีบรู: נָבָל - nāḇāl) ไม่ได้หมายถึงความโง่ทางสติปัญญา แต่หมายถึง ความโง่ทางศีลธรรมและจิตวิญญาณ คือ คนที่ปฏิเสธว่าพระเจ้ามีจริง และดำเนินชีวิตโดยไม่พระเจ้าอยู่ในสมการชีวิตเขาเลย
คนโง่ในที่นี้ไม่ใช่โง่ไปทุกเรื่อง แต่โง่ในเรื่องที่เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าพระเจ้ามีจริง แต่กลับยังปฎิเสธว่าไม่มี
ถึงตรงนี้ ให้คุณหยุดชั่วขณะและอธิษฐานถามพระวิญญาณว่า มีเรม่าห์พิเศษอะไรที่พระองค์ต้องการจะบอกคุณหรือไม่อย่างไร
สำหรับผม เรม่าห์ที่ได้รับคือ
พระวิญญาณทำให้ผมปิ๊งแวบนึกได้ถึงพระคัมภีร์ข้อนึงคือ
โรม 1:20 "เพราะว่าตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภาพที่มองไม่เห็นของพระเจ้า คือฤทธิ์เดชนิรันดร์และสภาพพระเจ้าของพระองค์ ปรากฏชัดในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ดังนั้นมนุษย์จึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย"
แล้วพระองค์ก็สอนผมว่า มนุษย์ที่ปฎิเสธการมีอยู่ของพระเจ้า เพราะเขามองไม่เห็นด้วยตา และไม่ยินเสียงด้วยหู เขาจึงคิดว่าไม่มี แต่เขากลับไม่คิดว่า จักรวาล ดวงดาว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทน์ และโลก เกิดขึ้นมาได้อย่างไร พืช สัตว์ มนุษย์ เกิดมาจากไหน ? ระบบนิเวศบนโลกที่ซับซ้อนแต่สมดุล เป็นไปได้อย่างไร ? และในดีเอ็นเอกับเซลล์ต่างๆในร่างกายมนุษย์ ก็สลับซับซ้อนเกินว่าจะวิวัฒนาการขึ้นมาได้เอง ดังนั้น ดาวิดจึงกล่าวว่า คนโง่คิดในใจว่า ไม่มีพระเจ้า เพราะเขาไม่ได้สนใจว่า สิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? ใครเป็นผู้สร้างขึ้น
ถึงตรงนี้ผมก็อาเมนเห็นด้วยกับพระองค์มากๆ เพราะนึกย้อนไปในสมัยที่ผมยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า ยังไม่รับเชื่อพระเยซู ผมก็มีความเชื่อแบบชาวพุทธ คือเชื่อว่า ทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว ตอนผมเป็นนักศึกษาคณะวิศวะ มีคนมาแจกใบปลิวประกาศข่าวประเสริฐ ผมก็หัวเราะเยาะเขา และขยำใบปลิวทิ้งอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่า ศาสนาทุกศาสนาก็สอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้น ผมไม่จำเป็นต้องรับเชื่อพระเยซู
นี่คือความคิดของคนโง่ในบริบทของพระคัมภีร์ตอนนี้ครับ คนโง่ตอนนนี้ไม่ใช่หมายถึงโง่ในด้านวิชาการ หรือโง่ด้านไอคิว หรือโง่ในด้านสติปัญญา แต่โง่ในด้านที่ปฎิเสธการมีตัวตนของพระเจ้า บนโลกมีคนฉลาดๆมากมายที่เรียนสูงจบด็อกเตอร์ แต่พระคัมภีร์ก้ยังถือว่าเป็นคนโง่ ถ้าเขาปฎิเสธการมีอยู่จริงของพระเจ้า คุณรู้มั๊ยครับว่า นักวิทยาศาสตร์ในยุคนี้มากมายหลายคน เมื่อเขาค้นพบความลับของธรรมชาติที่พระเจ้าสร้าง เขาก็ยิ่งต้องถ่อมใจยอมรับว่า พระเจ้ามีตัวตนจริงๆ เพราะสิ่งมีชีวิตมากมายล้วนถูกออกแบบดีไซน์มาอย่างซับซ้อน ไม่มีทางวิวัฒนาการขึ้นมาได้เองเลย ผมชอบดูหนังสารคดีชีวิตสัตว์และพืช เพราะทำให้ผมทึ่งและอัศจรรย์์ใจกับความสลับซับซ้อน ที่ไม่มีทางวิวัฒนาการขึ้นมาได้เองเลยครับ ถ้าคุณประกาศข่าวประเสริฐแล้วถูกชาวพุทธปฎิเสธ น่าจะลองเริ่มต้นประกาศโดยการทำให้เขาเชื่อว่าพระเจ้ามีจริงก่อนครับ แล้วค่อยนำเขารู้จักกับความบาปและความจำเป็นต้องรับการไถ่บาปจากพระเยซู
ในข้อ 2-3 ดาวิดกล่าวว่า พระเจ้าทรงมองหาคนที่เข้าใจและแสวงหาพระองค์ แต่พบว่า "ไม่มีผู้ใดที่ทำดีเลย แม้แต่คนเดียว"
เรม่าห์ที่ผมาได้รับคือ พระวิญญาณทำให้ผมระลึกได้ถึง โรม 3:10-12 ที่ท่านเปาโลกล่าวว่า
9ถ้าเช่นนั้นจะว่าอย่างไร? พวกยิวเราจะได้เปรียบกว่าหรือ? เปล่าเลยเพราะเราได้ชี้แจงให้เห็นแล้วว่า มนุษย์ทุกคนทั้งพวกยิวและพวกกรีกต่างก็อยู่ใต้อำนาจบาป 10ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า “ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียวไม่มีเลย 11 ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า 12 เขาทุกคนหลงผิดไปหมด พวกเขาเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี ไม่มีเลย
เห็นมั๊ยครับพี่น้อง ท่านเปาโลก็ยกพระคัมภีร์ที่เขียนโดยกษัตริย์ดดาวิดมาพูดในการประกาศข่าวประเสริบกับชาวยิวและชาวกรีกในกรุงโรม ซึ่งสะท้อนถึงสภาพการปฎิเสธพระเจ้าของมนุษย์ เมื่อเขาปฎิเสธพระเจ้า มันก็เหมือนกับลูกที่ปฎิเสธพ่อแม่ ซึ่งมันก็คือธรรมชาติบาปดั้งเดิมที่เราทุกคนได้รับตกทอดบาปการปฎิเสธพ่อแม่นี้มาจากอาดัมเอวา เขาเลือกที่จะกินผลไม้ต้องห้าม ซึ่งเป็นการปฎิเสธพระเจ้า ความบาปจึงแยกมนุษย์ออกจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า และท่านเปาโลก็กล่าวต่อว่า มนุษย์ไม่มีทางที่จะกลับมาคืนดีมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ด้วยตัวเขาเอง เพราะธรรมชาติบาปที่ปฎิเสธพ่อแม่ฝังอยู่ในตัว มั้นเป็นบาปแรกสุดคือบาปของการปฎิเสธผู้สร้างเขา ดังนั้น แม้จะทำความดีมากแค่ไหน แต่ถ้ายังปฎิเสธการมีอยู่ของพระเจ้า ปฎิเสธที่จะดำเนินชีวิตตามแผนการและน้ำพระทัยของผู้สร้าง ก็เท่ากับยังเป็นคนบาปอยู่ บาปของคริสเตียนไม่ได้แค่หมายถึงการทำชั่วเหมือนศาสนาอื่นๆ แต่หมายถึงการปฎิเสธการมีตัวตนของพระเจ้าก็คือบาป ซึ่งทำให้ถูกแยกห่างจากพระเจ้า และพระเยซูได้มาบังเกิดเพื่อแก้ไขสิ่งนี้ คือเอาบาปของการปฎิเสธพระเจ้าออกไป โดยยอมตายอย่างทรมานที่กางเขนเพื่อรับโทษบาปแทนเรา พระเจ้าจึงอภัยให้กับเราและทำให้เรากลับมาคืนดีมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ กลับมาเป็นลูกของพ่อในสวรรค์ได้อีกครั้ง ถ้าพระเยซูไม่มาบังเกิดและรับโทษบาปนี้แทนเรา เราก็ยังคงถูกแยกห่างจากพระเจ้า ไม่มีสิทธิ์ได้เป็นลูกของพระองค์ ต้องดำเนินชีวิตต่อสู้ับอูปสรรคปัญหาชีวิตตามลำพังด้วยกำลังตัวเอง ไม่สามารถพึ่งพาความช่วยเหลือจากพระเจ้าได้ ตายแล้วจิตวิญญาณก็ต้องถูกแยกจากพระเจ้าชั่วนิรันดร์ คือไปอยู่ในนรก แต่เมื่อบาปของการปฎิเสธพระเจ้าถูกพระเยซุเอาไปหมดแล้ว เราจึงดำเนินชีวิตไม่เป็นเด็กกำพร้าอีกต่อไป เราจึงสามารถอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพ่อในสวรรค์ได้ ตายแล้วจิตวิญญาณเราก็ได้ไปอยุ่กับพ่อผู้สร้างเราในสวรรค์ได้ชั่วนิรันดร อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง
ในข้อ 4-6 ดาวิดกล่าวว่า คนอธรรม กินประชากรของพระเจ้าราวกับกินขนมปัง
ตรงนี้หมายถึง พวกเขากดขี่ข่มเหงคนชอบธรรมโดยไม่รู้สึกฟ้องผิดในใจเลย แต่สุดท้าย พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายคนชอบธรรม และจะปกป้องพวกเขา
ในข้อ 7 ดาวิดร้องขอให้ความรอดมาถึงอิสราเอล ซึ่งก็หมายถึง ข้อแรก ขอการช่วยกู้ชาติอิสราเอลจากศัตรู ข้อ2. ขอการช่วยกู้ด้านฝ่ายวิญญาณ ซึ่งก็มาสำเร็จเป็นจริงในพระเยซูคริสต์ภายหลังครับ
สรุปเรม่าห์ที่ผมาได้รับในบทที่ 14 นี้คือ ดาวิดเริ่มต้นด้วยการคร่ำครวญถึงปัญหาความบาปของชาวอิสราเอล แล้วจบลงด้วยการอธิษฐานขอพระเจ้าช่วยคนชอบธรรมให้รอด ดาวิดมักเริ่มต้นด้วยการระบายความในใจ แล้วจบลงด้วยการอธิษฐานทูลขอ อธิษฐานสรรเสริญ และอธิษฐานขอบพระคุณครับ นี่หมายถึง คริสเตียนเราก็สามารถเริ่มต้นด้วยการระบายอารมณ์ความรู้สึกของเราต่อพระเจ้า เราไม่ต้องเก็บไว้ในใจ คือเรามาหาพระเจ้าเหมือนลูกมาหาพ่อครับ ไม่ต้องแกล้งทำตัวเข้มแข็ง เรามีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร ก็ระบายออกมาให้หมดต่อพระเจ้า แต่ไฮไลท์สำคัญคือ ไม่ใช่เอาแต่ระบายเอาแต่บ่นต่อพระเจ้าแล้วก็ยังจมอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกลบๆแบบนั้นนะครับ เมื่อระบายเสร็จแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะลงท้ายด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและขอบพระคุณพระองค์เสมอ แล้วจิตวิญญาณของคุณจะได้รับการฟื้นฟู ได้รับการบำบัดเยียวยาครับ
เอาหล่ะครับ มาร่วมสนุกกัน เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ คุณได้รับเรม่าห์อะไร ก็ให้เขียนคอมเม้นท์ลงในใต้คลิปนี้นะครรับ
คุณเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้แล้วหรือยังว่า "คนโง่คิดในใจว่า ไม่มีพระเจ้า" หมายถึงอะไร? ใครคือคนโง่ในบริบทของพระคัมภีร์ตอนนี้? และผลลัพธ์ของการคิดว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์?
เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ ให้คุณหยุดและอธิษฐานขอพระวิญญาเปิดเผยสำแดงให้คุณได้รู้ว่า คุณเป็นคนอย่างไร ? คุณมักสงสัยหรือไม่ว่า พระเจ้ามีจริงหรือเปล่า? หรือในอีกด้านหนึ่ง คนไม่สงสัยว่าพระเจ้ามีจริง แต่คุณยังปฎิเสธที่จะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าอยู่หรือเปล่า ? คุณยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง หรือให้พระเจ้าเป็นศูนยกลาง? ในขณะที่คุณกำลังเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบาก คุณเอาแต่ระบายอารมณ์ความรู้สึกและบ่นถึงความทุกข์ยาก หรือคุณมักลงท้ายจบลงด้วยการร้องเพลงสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าตลอดเวลาแบบดาวิด คุณเป็นอย่างไร? ให้คุณหยุดและอธิษฐานถามพระวิญญาณดูนะครับ
พรุ่งนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยกัน เพื่อจะหยั่งรู้ได้ถึงน้ำพระทัยดีเลิศของพระเจ้าที่มีต่อคุณ แล้วชีวิตคุณจะกลายเป็นท่อพระพรใหญ่สู่ผู้คนในวงกว้างมากมายได้ อาเมนมั๊ยพีน้อง ขอพระเจ้าอวยพร