สวัสดีครับพี่น้อง 🙌 คลิปนี้เป็นตอนที่ 2 ของซีรีส์ **"เปิดประตูสู่ชีวิตอัศจรรย์ ด้วยการเฝ้าเดี่ยวจากพระคัมภีร์ สดุดี"** 🌿📖
🌟 ในซีรีส์นี้ เราจะอ่านพระคัมภีร์ไปด้วยกัน **วันละ 1 บท** จนครบ **150 วัน**! หากคุณพึ่งเข้ามาฟังครั้งแรก 📌 **แนะนำให้ย้อนกลับไปฟังตอนแรก** เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาอย่างต่อเนื่องครับ
🔎 วันนี้เรามาถึง **สดุดี บทที่ 2** ซึ่งเผยให้เห็นว่า **มนุษย์มักกบฏต่อพระเจ้า** โดยเฉพาะเหล่าผู้นำของโลกที่ต่อต้านแผนการของพระองค์ 😔 แต่พระเจ้าทรง **แต่งตั้งพระเมสสิยาห์ คือ พระเยซูคริสต์** 👑 เพื่อครอบครองประชาชาติ และทรงเตือนให้ผู้มีอำนาจหันกลับมาหาพระองค์ก่อนที่ **การพิพากษาจะมาถึง** ⚖️
✝️ **สรุปของสดุดีบทนี้คือ**
✅ **คนที่วางใจในพระเจ้า** และพระเยซูคริสต์จะได้รับ **พระพร** 🌿✨
❌ **คนที่กบฏต่อพระองค์** จะต้องพบกับ **การพิพากษา** 😨🔥
⏳ **ถึงตรงนี้...ให้คุณหยุดชั่วขณะ** และอธิษฐานถามพระวิญญาณว่า...
**"พระองค์มีอะไรจะบอกข้าพเจ้าหรือไม่?"** 🙏
เมื่อมองดูโลกทุกวันนี้ มีการ **ต่อต้านพระเจ้า** ในหลายประเทศ 🌍❌ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐถูกห้าม 📵 บางแห่งถึงกับลงโทษหรือข่มเหงคริสเตียนหนักขึ้นเรื่อยๆ 😢
🔹 โรม 1:21-22 กล่าวว่า...
*"เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักพระเจ้า พวกเขาก็ไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ หรือขอบพระคุณพระองค์ แต่กลับคิดในสิ่งที่ไร้สาระ และจิตใจที่ไม่เข้าใจของพวกเขาก็มืดมน พวกเขาอ้างว่าตนฉลาด แต่กลับกลายเป็นคนโง่"*
👉 โลกเราวันนี้เต็มไปด้วย **เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า** 🚀 แต่กลับห่างไกลจาก **น้ำพระทัยของพระเจ้า** ไปเรื่อยๆ 😞 โดยเฉพาะ AI และ **AI Agent** 🧠🤖 ที่กำลังจะมาพลิกโฉมโลกในไม่กี่ปีข้างหน้า
⚠️ **แต่พี่น้องครับ อย่าหวั่นไหว!**
พระเจ้าทรงเตรียมการสำหรับเราผู้ที่วางใจในพระองค์ 💖 แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน **แต่พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง** และ **พระองค์จะทรงนำทางเรา** ✨
🎯 **การดำเนินชีวิตภายใต้การปกครองของพระเจ้า** หมายถึง...
👉 **ยอมรับพระองค์เป็นเจ้าของชีวิต** ไม่ใช่เราตัดสินใจเองทุกอย่าง
👉 **ให้พระคัมภีร์เป็นแนวทาง** ไม่ใช่ตามกระแสโลก
👉 **พึ่งพาพระเจ้าเสมอ** ไม่ใช่พึ่งพาแค่เทคโนโลยี
📖 **1 โครินธ์ 6:19-20**
*"ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง เหตุฉะนั้น ท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยกายของท่าน"*
🔥 **ขอให้พี่น้องดำเนินชีวิตอย่างผู้ที่วางใจในพระเจ้า** ✝️
ถ้าคลิปนี้เป็นพระพรกับคุณ **กดไลก์ ❤️ แชร์ 📢 และกดติดตาม 🔔** เพื่อไม่พลาดตอนต่อไปนะครับ
**พระเจ้าอวยพรครับ!** 🙌✨
#เฝ้าเดี่ยวสดุดี #สดุดี2 #พระเยซูเป็นกษัตริย์ #พระเจ้าทรงครอบครอง #พระคัมภีร์ #AIกับยุคสุดท้าย #ชีวิตที่วางใจพระเจ้า
จัดทำคลิปโดย .... คุณบิ๊ก
พันธกิจ .... Big Miracle
Line ID ... BigBig477
สวัสีดีครับพี่น้อง คลิปนี้เป็นตอนที่ 2 ของซีรีย์ เปิดประตูสู่ชีวิตอัศจรรย์ ด้วยการเฝ้าเดี่ยวจากพระคัมภีร์ สดุดี
ในซีรีย์นี้จะมีทั้งหมด 150 บท เราจะอ่านพระคัมภีร์ไปด้วยกันประมาณวันละบท ซึ่งก็จะใช้เวลา 150 วันหรือเกือบครึ่งปีนะครับ ถ้าคุณพึ่งเข้ามาฟังครั้งแรก ขอแนะนำให้ย้อนกลับไปฟังคลิปก่อนหน้าตั้งแต่คลิปแรกสุด จะได้ต่อติดนะครับ
สำหรับตอนที่ 2 วันนี้ เรามาถึงบทที่ 2 ผมจะอ่านช้าๆและให้คุณใคร่ครวญไปด้วยนะครับ
1เหตุใดบรรดาประชาชาติจึงคิดกบฏ?
ทำไมประเทศทั้งหลายคิดลมๆ แล้งๆ?
2บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกตั้งตนเองขึ้น และนักปกครองปรึกษากัน ต่อสู้พระยาห์เวห์กับผู้รับการเจิมของพระองค์ กล่าวว่า
3“ให้เราหักโซ่ตรวน และสลัดเครื่องจำจองของเขาให้พ้นจากเราเถิด”
4พระองค์ผู้ประทับในสวรรค์ทรงหัวเราะ
องค์เจ้านายทรงเย้ยหยันเขาเหล่านั้น
5แล้วตรัสกับเขาทั้งหลายด้วยความโกรธ
และด้วยความเดือดดาล ก็ทรงทำให้เขาหวาดกลัว ตรัสว่า
6“เราเองได้ตั้งกษัตริย์ของเราไว้แล้ว
บนศิโยน ภูเขาบริสุทธิ์ของเรา”
7ข้าพเจ้าจะบอกถึงกฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์
พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราให้กำเนิดเจ้าแล้ว
8จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า
ตลอดจนแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า
9เจ้าจะตีพวกเขาให้แตกด้วยคทาเหล็ก
และฟาดให้แหลกเป็นชิ้นๆ ดุจภาชนะของช่างปั้นหม้อ”
10เพราะฉะนั้น กษัตริย์ทั้งหลายเอ๋ย จงฉลาดเถิด
บรรดาผู้ปกครองแห่งแผ่นดินโลกเอ๋ย จงรับคำเตือนเถิด
11จงปรนนิบัติพระยาห์เวห์ด้วยความยำเกรง
และจงเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น
12จงจุมพิตพระบุตร
หาไม่ พระองค์จะกริ้ว และเจ้าต้องพินาศจากทางนั้น
เพราะความกริ้วของพระองค์จุดให้ลุกได้รวดเร็ว
ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์ก็เป็นสุข
ผมใคร่ครวญดูแล้ว ก็ได้รับโลกอสที่เป็นความเข้าใจกว้างๆคือ
ในสดุดีบทที่ 2 นี้ สะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์มักกบฏต่อพระเจ้า โดยเฉพาะผู้นำประเทศต่างๆของโลก ที่พยายามต่อต้านแผนการของพระองค์ ข้อนี้ยังเป็นคำพยากรณ์ถึงการที่เหล่าผู้นำทางศาสนาและนักการเมืองในยุคนั้น ที่วางแผนต่อต้านพระเยซูคริสต์ครับ
และพระเจ้าก็หัวเราะ มองการกบฏของมนุษย์ว่า ไร้สาระ เพราะไม่มีใครสามารถต่อสู้กับพระองค์ได้ พระองค์ทรงตั้งกษัตริย์ของพระองค์ไว้แล้ว ซึ่งก็คือพระเมสสิยาห์ หมายถึงพระเยซูคริสต์นั่นเอง เรื่องพระเยซูนี้ก็ได้พูดถึงล่วงหน้าไว้ในหนังสือสดุดีแล้ว ในบทนี้นี่แหละครับ
พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์เหนือประชาชาติ และจะทรงครอบครองโลกอย่างสมบูรณ์ในยุคสุดท้ายครับ พระเจ้าทรงเตือนให้ผู้มีอำนาจในโลกหันกลับมาหาพระองค์ ก่อนที่การพิพากษาของพระองค์จะมาถึง
สรุปของสดุดีบทที่ 2 นี้คือ คนที่วางใจในพระเจ้าและในพระเยซูคริสต์จะได้รับพระพร แต่คนที่กบฏจะพบกับการพิพากษา
ถึงตรงนี้ให้คุณหยุดชั่วขณะ และอธิษฐานถามพระวิญญาณว่า พระองค์มีอะไรจะบอกคุณหรือไม่อย่างไร
สำหรับผม เรม่าห์ที่ผมได้รับคือ
พระวิญญาณทำให้ผมนึกได้ถึงข่าวต่างๆในยุคปัจจุบัน มีการต่อต้านความเชื่อในพระเจ้าในบางพื้นที่บางประเทศ ซึ่งจำกัดเสรีภาพทางความเชื่อ บางแห่งห้ามประกาศข่าวประเสริฐ และลงโทษอย่างรุนแรงต่อผู้ประกาศ ทั้งๆที่ผมพิจารณาข่าวประเสริฐแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องต่อต้านเลย ข่าวประเสริฐก็เป็นเรื่องดีต่อชีวิตมนุษย์ทั้งนั้น เป็นพระคุณที่ได้รับเปล่าๆจากพระเจ้า แต่ไม่รู้ทำไมจึงต้องปฎิเสธกัน บางประเทศก็ถึงกับฆ่าผู้ประกาศเลย
บางประเทศก็ออกกฎหมายสนับสนุนสิ่งที่พระเจ้าทรงห้าม เช่น การทำแท้งเสรี การแต่งงานของเพศเดียวกัน หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ประเทศไทยก็เลียนแบบเขาไปด้วย เป็นการทำให้เรื่องผิดธรรมชาติที่พระเจ้าสร้าง กลายเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว นับวันการทำผิดต่อพระประสงค์และน้ำพระทัยการทรงสร้างของพระเจ้าก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วพระวิญญาณก็ทำให้ผมระลึกได้ถึง
โรม 1:21-22 ที่กล่าวว่า
> "เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักพระเจ้า พวกเขาก็ไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ หรือขอบพระคุณพระองค์ แต่กลับคิดในสิ่งที่ไร้สาระ และจิตใจที่ไม่เข้าใจของพวกเขาก็มืดมน พวกเขาอ้างว่าตนฉลาด แต่กลับกลายเป็นคนโง่"
แล้วพระองค์ก็สอนผมว่า คนที่ปฏิเสธพระเจ้าและไม่ยอมรับสิทธิอำนาจการปกครองของพระองค์ ก็มักจะคิดไปว่า ตนเองสามารถดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพระเจ้า แล้วก็ไม่ยอมรับการทรงสร้างของพระองค์ และหลงเจิ่นไปตามใจปราถนาของตัวเอง
ถึงตรงนี้ผมก็นึกย้อนกลับไปในอดีตก่อนจะรับเชื่อ ผมก็เป็นแบบนี้ คือผมไม่รู้เลยว่า เกิดมาทำไม ผมก็ดำเนินชีวิตไปตามใจตัวเอง ไม่เคยคิดว่ามีพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างทุกชีวิต แม้แต่มาเป็นคริสเตียนใหม่ๆ ไม่ได้อ่านพระคัมภีร์ ก็ไม่รู้เลยว่า จะต้องดำเนินชีวิตโดยให้พระเจ้าเป็นใหญ่ เป็นศูนย์กลาง ผมก็ยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ดำเนินชีวิตไปตามเนื้อหนังตัวตนเก่า มาหาพระเจ้าก็แค่เพื่ออธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยแก้ปัญหา แบบผู้ที่มีความเชื่อสายมูเตลู
พอปัญหาหมดไปแล้วก็กลับไปดำเนินชีวิตตามใจตัวเองเหมือนเดิม นี่แหละครับคือลักษณะธรรมชาติของมนุษย์เรา เราปฎิเสธอำนาจอธิบไตยของพระเจ้าในฐานะผู้สร้าง มันจึงทำให้โลกเราทุกวันนี้ก็เสื่อมลงไปเรื่อยๆ ยิ่งมีความเจริญทางเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ เรายิ่งออกห่างจากธรรมชาติการทรงสร้างของพระเจ้าไปมากเท่านั้น ในด้านหนึ่งมันอาจช่วยให้เรามีชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่ในอีกหลายๆด้าน มันกลับทำให้จิตใจจิตวิญญาณเราเสื่อมจากความเป็นมนุษย์ตามแผนการพระเจ้าไป และทำให้เราทุกข์ยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในปลายยุคสุดท้ายนี้ที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยีมากที่สุดคือ AI และหุ่นยนต์ กำลังจะถึงจุดสุดยอดของเทคโนโลยีภายในอีกไม่กี่ปี เพราะอะไรครับ ก็เพราะเจ้า AI มันมีสติปัญญาล้ำเกินมนุษย์ และจะสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นใหม่ได้เองแล้วครับ โดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์อยู่ในสมการ
คุณรู้มั๊ยครับว่า ในปีนี้เทคโนโลยีอะไรกำลังมาแรง และจะมาแทนที่ chatGPT หรือ Deepseek เทคโนโลยีนั้นก็คือ AI agent ครับ เจ้า chatGPT หรือ Deepseek มันเป็นแค่ chatbot ที่จะช่วยตอบคำถามเราเท่านั้น เหมือนเป็นผู้ช่วยค้นหาคำตอบจากห้องสมุดขนาดใหญ่ให้เรา แต่เราได้คำแล้ว ต้องเอามาตัดสินใจเองว่า จะทำตามที่ AI ให้คำตอบมาหรือไม่ แต่ถ้าเทคโนโลยี AI agent มันล้ำหน้าไปอีกขึ้นคือ เราแค่บอกว่าเราต้องการผลลัพธ์อย่างไร แล้วมันไม่เพียงไปค้นหาวิธีมาแนะนำเรา แต่มันช่วยตัดสินใจแทนเราด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากเดินทางจากกรุงเทพไปภูเก็ต คุณอาจสอบถาม chatGPT หรือ Deepseek ว่า จะต้องจองตั๋วเครื่องบินสายไหนได้บ้าง ราคาเท่าไหร่ แล้วคุณก้ต้องมาตัดสินใจเองว่าจะซื้อตั๋วแบบไหน และจ่ายเงินอย่างไร แต่ว่า ในปลายปีนี้หรือปีหน้า เมื่อ AI agent คลอดออกมา คราวนี้คุณไม่ต้องตัดสินใจเองแล้ว คุณแค่บอกมันว่าคุณจะนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปภูเก็ต ให้มันทำการจองตั๋วเครื่องบินให้ เอาแบบที่อยู่ในงบประมาณของคุณที่สุด และมีคุณภาพดีสุด ใกล้เคียงเวลาที่คุณต้องการที่สุด เพียงเท่านี้ เจ้า AI agent มันจะไปค้นหาวิธีบินที่ดีที่สุดตามที่คุณต้องการ แล้วก็ทำการจองให้คุณเลย จ่ายเงินเลยด้วย เปรียบเสมือนคุณมีตัวแทน agent ส่วนตัวที่ฉลาดรอบรู้ และทำกิจกรรมหลายๆอย่างแทนคุณเลย คือต่อไปคนจะตกงานอีกเกิน 50% ก็เพราะเจ้าเทคโนโลยี AI agent นี่แหละครับ มี agent ทุกอย่างเช่น agent หมอ / agent วิศวกร / agent ครูอาจารย์ / agent ในทุกๆอาชีพเลยครับ คนที่มีอาชีพเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นผู้ชำนาญการในด้านต่างๆ ก้เตรียมตกงานได้แล้วครับ เพราะเจ้า agent มันจะมาทำแทนหมด ผู้ประกอบการจะซื้อเจ้า agent มาทำงานแทนพนักงานในหลายๆตำแหน่ง เหลือแค่ตำแหน่งสำคัญมากๆในองค์กร คุณ top จิรายุกล่าวว่า อีกไม่กี่ปี เราจะได้เห็นเจ้าของกิจการคนเดียว แต่ทำบริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศได้ เพราะอาศัยเทคโนโลยี ai agent นี่แหละครับ
ผมไม่ได้มาแบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้เพื่อให้คุณกลัวอนาคตนะครับ พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่ขลาดกลัวให้แก่คริสเตียนเรา เรามีพระเจ้าที่เราสามารถวางใจได้ในทุกสถานการณ์ โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยน และพระองค์รักและห่วงใยเราเสมอ พระองค์จะมีการจัดเตรียมและการทรงนำหนทางที่เป็นทางออกให้แก่เราในทุกๆวิกฤต แต่ผมมาแบ่งปันเรื่อง ai agent ก็เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีนี้ครับ การวางใจพระเจ้าไม่ใช่วางใจแบบโง่ๆนะครับ แต่ให้วางใจแบบฉลาด และมีสันติสุขในพระเจ้า วางใจแบบฉลาดก็คือ จะอธิษฐานขอการจัดเตรียมและการทรงนำจากพระเจ้าไว้ล่วงหน้า เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เหมือนที่พระเจ้าก็ช่วยให้โยเซฟมีสติปัญญาในการเตรียมพร้อมรับมือกับการกันดารใน 7 ปีข้างหน้า และเตรียมพร้อมอย่างมีสันติสุข ไม่ใช่ร้อนรุ่มกระวนกระวยหวาดกลัวครับ
อย่างไรก็ตาม แม้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะน่ากลัว แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็จะช่วยให้นายทุนคนที่มีเงินซื้อเทคโนโลยีสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทว่า เจ้าเทคโนโลยี มันไม่ได้ช่วยหยุดหรือยับยั้งกิเลสตัณหาความบาปในตัวมนุษย์เลย กลับยิ่งแก่งแย่งแข่งขันกันมากยิ่งขึ้นไปอีก คนรวยๆหลายคนจะซื้อเทคโนโลยีมาเพิ่มมือของเขาให้ยาวขึ้น ยิ่งยาวก็ยิ่งสาวได้สาวเอามากกว่าคนอื่น และก็ทำให้เกิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากยิ่งขึ้น ผลก็คือ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความรักระหว่างมนุษย์ก็จะยิ่งเยือกเย็นลงไปเรื่อยๆ เพราะเราจะไม่ได้พึ่งพาอาศัยพรสวรรค์หรือของประทานของกันและกันแล้ว เราจะไปพึ่งพาอาศัยเทคโลยี ai agent แทน แล้วเมื่อแข่งกันจนถึงจุดหนึ่งทีคนที่สู้คนอื่นด้วยเทคโนโลยีไม่ได้ ก็จะเริ่มหันมาใช้กำลังในการสู้ และมันก็จะทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกจนได้ครับ ซึ่งก็ล้วนเป็นผลมาจากการปฎิเสธพระเจ้า ไม่ได้ให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่ง ไม่ได้ให้พระเจ้าอยู่ในสมการของการดำเนินชีวิตนั่นเอง
หนังสือพระคัมภีร์สดุดี เป็นหนังสือที่จะนำเราให้หันกลับมาเห็นความสำคัญของพระเจ้าผู้สร้างเรา หันมายกย่องนมัสการสรรเสริญพระเจ้า ไม่ใช่เอาแต่สรรเสริญเงินทองหรือเทคโนโลยี หรือสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น ถ้าคุณติดตามเฝ้าเดี่ยวในซีรีย์นี้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆทุกวัน จิตวิญญาณคุณจะได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า คุณจะตระหนักถึงอำนาจอธิบไตยของพระองค์ คุณจะถ่อมตัวถ่อมใจลงยอมรับการปกครองของพระองค์ คุณจะรู้ตัวว่า คุณเองก็เป็นเพียงมนุษย์ที่ไม่อาจจะยิ่งใหญ๋ไปกว่าพระเจ้าได้ คุณจะยกย่องให้เกียรติและสรรเสริญพระองค์ และขอบพระคุณพระองค์ในชีวิตที่คุณได้รับมา ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่มีความจำกัด และยอมรับในความไม่จำกัดของพระเจ้า จะทำให้คุณเข้ามาพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง และทำให้ชีวิตของคุณได้รับการเปลี่ยนแปลงและได้รับการทรงนำให้เดินอยู่ในเส้นทางของการอวยพรจากพระเจ้าเสมอ อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง
ถึงตรงนี้ ผมอดถามพระวิญญาณไม่ได้ว่า การดำนเินชีวิตภายใต้อำนาจอธิบไตย ภายใต้การปกครองของพระเจ้า หมายถึงอะไร
พระวิญญาณยิ้มให้ผม และทำให้ผมระลึกได้ถึง
1 โครินธ์ 6:19-20 TH1971
ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้ว ด้วยราคาสูง เหตุฉะนั้น ท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด
เห็นมั๊ยครับพี่น้อง เมื่อเรามาเป็นคริสเตียน เราได้รับการไถ่แล้วโดยพระโลหิตพระคริสต์ พระวิญญาณของพระเจ้าเข้ามาอยู่ในตัวเราแล้ว คุณรู้มั๊ยครับว่า เดี๋ยวนี้คุณไม่ได้เป็นเจ้าของร่างกายนี้ของคุณแล้ว เพราะพระเจ้าได้ซื้อคุณไว้แล้วด้วยราคาสูง คือซื้อด้วยพระโลหิตบริสุทธิ์ของพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า ก็คือพระเยซูคริสต์ ดังนั้น เราจึงคิดทำอะไรตามใจปราถนาตัวเองไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่เจ้าของร่างกายนี้แล้ว แต่ต้องทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า นี่แสดงถึงการยอมอยู่ภายใต้อำนาจอธิบไตย หรือภายใต้การปกครองของพระเจ้าไงหล่ะครับ ถ้าคุณทำอะไรตามใจปราถนาตัวเอง ก็แปลว่าคุณปกครองตัวเอง คุณยังเป็นเจ้าของตัวเองอยู่ แม้จะอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า แต่ก็เหมือนประชาชนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้วไม่ยอมรับการปกครองของกฎหมายไทยนั่นเอง
ถึงตรงนี้ผมก็อดถามพระวิญญาณว่า งั้นผมก็กลายเป็นหุ่นยนต์สิ ถ้าต้องคอยรับคำสั่งจากพระเจ้าเท่านั้น
ผมสัมผัสได้ว่า พระวิญญาณก็ยิ้มให้กับผมในวิญญาณจิต และสอนผมว่า
มันไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าได้รับอิสระที่จะทำอะไรได้อยู่ระดับหนึ่ง เช่น จะใส่เสื้อกางเกงสีอะไร จะกินอะไร จะนอนที่ไหน จะทำงานหรือจะดูหนังดูละคร เจ้ามีอิสระอยู่ พระเจ้าก็ให้อิสระแก่เจ้าอยู่ที่จะทำอะไรต้องใจปราถนา แต่เจ้าจะต้องไม่ใช้อิสรภาพที่ได้รับทำอะไรเกินขอบเขตที่พระเจ้ากำหนดไว้ ไม่ใช่เพื่อพระเจ้า แต่เพื่อตัวเจ้าเอง ตัวอย่างเช่น เจ้ามีอิสระที่จะเที่ยวเตร่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ถ้าใช้อิสระนี้มากเกินขอบเขต เจ้าก็จะยากจนและขัดสน หรือถ้าเจ้าใช้อิสระไปในทางฉ้อโกงชาวบ้าน ซึ่งเป็ฯอิสรภาพที่เกินขอบเขต เจ้าก็จะติดคุก
โอ้ไอซี การอยู่ภายใต้อำนาจอธิบไตย หรืออยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าก็คือแบบนี้นี่เอง ไม่ใช่แค่หมายถึงการต้องไปโบสถ์วันอาทิตย์ หรืออ่านพระคัภีร์ แต่หมายถึง เราต้องตะหนักว่า เราไม่ได้เป็นเจ้าของร่างกายเรา แต่พระเจ้าก็ยังเมตตาให้เรามีอิสระที่จะทำอะไรตามใจตัวเองได้อยู่ เพียงแต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่จะไม่ทำร้ายตัวเราเอง ไม่ทำร้ายคนอื่น และไม่ทำให้พระเจ้าเสื่อมเสียเกียรติ
และเราจะได้รู้ได้อย่างไรว่าอะไรอยู่ในขอบเขตอะไรอยู่นอกขอบเขต ก็โดยการทำตามคำแนะนำจากพระคัมภีร์ และฟังพระสุรเสียงการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
นี่คือบทสรุปของพระคัมภีร์สดุดีบทที่ 2 นี้ครับ ถ้าคุณไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ หรืออ่านน้อยมาก ไม่เคยสนทนาสื่อสารสองทางกับพระวิญญาณอีก้ดวย แม้คุณจะถวายตัวถวายร่างกายให้พระเจ้า แต่คุณก็ไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างไร ใช่มั๊ยครับ ดังนั้น ข้อแรกคือ เราต้องยอมรับอำนาจอธิบไตยของพระเจ้า เราต้องเชื่อว่าพระเจ้ารักเราและปราถนาดีต่อเราเสมอ และถ้าเราเชื่อฟังทำตามพระองค์ รู้ว่าอะไรอยู่ในขอบเขต อะไรออกนอกขอบเขตเสรีภาพ เราก็จะมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ เกิดดอกออกผลตามฤดูกาล ใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง จำเเริญขึ้นในทุกด้าน ชีวิตก็จะเต็มล้นด้วยการอัศจรรย์จากพระเจ้าตลอดไป อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง
เอาหล่ะครับ มาร่วมสนุกัน เฝ้าเดี่ยววันนี้ คุณได้รับเรม่าห์อะไร ก็ให้เขียนคอมเม้นท์ลงในใต้คลิปนี้นะครรับ
คุณได้เข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า
1เหตุใดบรรดาประชาชาติจึงคิดกบฏ?
ทำไมประเทศทั้งหลายคิดลมๆ แล้งๆ?
2บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกตั้งตนเองขึ้น และนักปกครองปรึกษากัน ต่อสู้พระยาห์เวห์กับผู้รับการเจิมของพระองค์
คุณเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้แล้วหรือยัง? คุณเข้าใจการอยู่ภายใต้อำนาจอธิบไตยของพระเจ้าอย่างถูกต้องแล้วหรือยัง? คุณเข้าใจหรือไม่ว่า ผู้ได้รับการเจิมในข้อพระคัมภีร์ตอนนี้หมายถึงใคร? และเขาผู้นี้ มีผลต่อชีวิตฝ่ายวิญญาณคุณอย่างไร? ลองทบทวนตัวเอง ขณะนี้ คุณยอมอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของพระเจ้าหรือเปล่า ? คุณให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่งในชีวิต เป็นศูนย์กลางของชีวิต หรือคุณยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง? คุณได้รับเรม่าห์พิเศษอะไรบ้างจากพระวิญญาณ และคุณจะตอบสนองอย่างไร เพื่อให้ความเชื่อฝังลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึก แล้วจะได้มีชีวิตอัศจรรย์ในทุกด้าน?
เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ ให้คุณหยุดและอธิษฐานขอพระวิญญาเปิดเผยสำแดงให้คุณได้รับรู้ แล้วพิมพ์คำตอบในคอมเม้นท์ใต้
พรุ่งนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อศรัทธาวางใจพระเจ้าให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น แล้วชีวิตคุณจะไม่ขาดการอัศจรรย์เลย คุณจะเต็มล้นด้วยศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด เพื่อพระเจ้าจะใช้คุณไปเป็นท่อพระพรใหญ่สู่ผู้คนในวงกว้างมากมายได้ อาเมนมั๊ยพีน้อง ขอพระเจ้าอวยพร