สดุดีบทที่ 10** เป็นช่วงเวลาที่ดาวิดรู้สึกว่าพระเจ้าเงียบ 🏔️ และปล่อยให้คนชั่วลอยนวล 😢 อาจเป็นเวลาที่เขาร้องทูลแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ทำให้เกิดความลังเลสงสัย 🤔
📖 **เนื้อหาโดยสรุป**
✅ (ข้อ 1) ดาวิดเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด เพราะเหมือนพระเจ้าไม่ทรงตอบ
✅ (ข้อ 2-11) พูดถึงพฤติกรรมของคนชั่วที่อวดดีและดูถูกพระเจ้า 😡
✅ (ข้อ 12-15) ดาวิดอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงแทรกแซง 🛡️
✅ (ข้อ 16-18) ดาวิดเปลี่ยนมุมมอง ✨ ประกาศความเชื่อว่าพระเจ้าทรงครอบครองและทรงยุติธรรม
**แล้วเราล่ะ?** เคยสงสัยไหมว่าทำไมพระเจ้าเงียบเมื่อเราทูลขอ? 🤷♂️💭
💡 พระวิญญาณนำให้ผมย้อนคิดถึงประสบการณ์หลายๆ ครั้งที่ผมต้องเผชิญ เช่น ตอนที่ถูกโกงเงิน 💰 หรือช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต 😞
🌱 แต่เมื่อเติบโตในความเชื่อ ผมเริ่มเข้าใจว่า **บางครั้งพระเจ้าเงียบ เพราะ...**
📌 เพื่อให้เรากลับใจจากบาป (2 เปโตร 3:9) 🙏
📌 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อของเราเหมือนอับราฮัมที่ต้องรอคอย 25 ปี ⏳
📌 เพื่อให้เราเรียนรู้ว่า **เวลาของพระเจ้าดีที่สุด** ⏰
📌 เพื่อให้เกิดปาฏิหาริย์ที่มาจากพระองค์จริงๆ ✨
🛑 อย่าพลาด! มาร่วมหาคำตอบผ่านพระคำ และแบ่งปันประสบการณ์ของคุณในคอมเมนต์ด้านล่าง 💬👇
📢 ฝากกดไลก์ ❤️ กดแชร์ 📤 และกดติดตาม 🔔 เพื่อไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณเติบโตในความเชื่อกับพระเจ้า!
**#เฝ้าเดี่ยวสดุดี #ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์ #ทำไมพระเจ้าเงียบ** 🎬✨
จัดทำคลิปโดย.... คุณบิ๊ก
พันธกิจ .... Big Miracle
Line ID .... BigBig477
สวัสีดีครับพี่น้อง คลิปนี้เป็นบทที่ 10 ของซีรีย์ "ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์" ด้วยการเฝ้าเดี่ยวจากพระคัมภีร์ สดุดี
สำหรับบทที่ 10 นี้ ต่อเนื่องจากบทที่ 9 คือ เป็นตอนที่ดาวิดรู้สึกว่า ทำไมพระเจ้าเงียบ และปล่อยให้คนชั่วลอยนวล อาจเป็นช่วงที่เขาอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยแล้วพระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐาน เขาเริ่มเกิดความลังเลสงสัย ผมขอสรุปสั้นๆดังนี้ครับ
อธิบายสดุดี บทที่ 10 บริบทและภาพรวม
สดุดีบทที่ 10 เป็นคำอธิษฐานของผู้ที่ทุกข์ใจและรู้สึกว่าพระเจ้าเงียบอยู่เมื่อต้องเผชิญกับคนชั่วร้ายและความอยุติธรรมในโลก ผู้เขียน (เชื่อว่าเป็นดาวิด) เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า "ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์ทรงยืนอยู่ไกล และทรงซ่อนพระองค์ในยามทุกข์ยาก?" (ข้อ 1)
(ข้อ 1) ดาวิดริ่มต้นด้วยความรู้สึกสับสนและเจ็บปวด เพราะดูเหมือนว่าพระเจ้าไม่ทรงทำอะไรต่อความอยุติธรรม
(ข้อ 2-11) เป็นการบรรยายถึงลักษณะชีวิตของคนชั่วคนอธรรม ได้แก่ เย่อหยิ่ง กดขี่ผู้อ่อนแอด อวดดี คิดว่าพระเจ้าจะไม่ลงโทษ พูดจาหยิ่งผยอง และดูถูกพระเจ้า ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อหลอกลวงผู้อื่น มีความเชื่อว่า พระเจ้าจะลืมความผิดบาปของพวกเขา
(ข้อ 12-15) ดาวิดร้องขอให้พระเจ้าทรงเข้ามาแทรกแซง ขอพระเจ้าทรงทำให้คนชั่วต้องรับผลจากการกระทำของพวกเขา
ตั้งแต่ข้อ (ข้อ 16 จนจบข้อ 18) ดาวิดเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาและต่อพระเจ้าใหม่นะครับ เขาประกาศความเชื่อในแง่บวกว่า พระเจ้าทรงเป็นปกครองและทรงควบคุมทุกสิ่ง พระองค์ทรงฟังเสียงของผู้ที่ถูกกดขี่ พระองค์จะทรงพิพากษาคนชั่วและช่วยเหลือผู้อ่อนแอ
ถึงตรงนี้ให้คุณหยุดชั่วขณะและอธิษฐานถามพระวิญญาณว่า มีเรม่าห์อะไรที่พระองค์ต้องการจะบอกคุณหรือไม่อย่างไร
สำหรับผม มีคำว่า พระเจ้าเงียบ ปิ๊งแวบผุดขึ้นมาในใจ ผมจึงนำมาเป็นหัวข้อสนทนากับพระวิญญาณ
แล้วพระวิญญาณก็ทำให้ผมระลึกได้ถึงเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาของผม ตลอดการเป็นคริสเตียน 25 ปี ผมก็พบว่า มีหลายๆครั้งที่พระเจ้าเงียบ ไม่ตอบคำอธิษฐานขอผม คล้ายๆกับที่ดาวิดร้องคร่ำครวญตอนนี้ สำหรับสถานการณ์ที่ดาวิดเจอคือ เขากำลังสงสัยในพระเจ้าว่า ทำไมปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ตัวเขากลับตกต่ำย่ำแย่ ทั้งๆที่รักพระเจ้าและเชื่อฟังพระเจ้า คุณเคยมีอาการสงสัยพระเจ้าแบบดาวิดมั๊ยครับ
ในช่วงที่ผมโดนโกงคือ มี 4-5 ครอบครัวยืมเงินผมไปครอบครัวละ 2-3 แสน แล้วเมื่อถึงกำหนดก็หายเข้ากลีบเมฆ ไม่คืนผมตามสัญญา ผมก็อยู่ในอาการคล้ายๆดาวิดในตอนนี้คือ ผมก็สงสัยในพระเจ้าครับ ทำไมพระเจ้าเงียบ ทำไมพระเจ้าไม่ทำอะไร ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
และก็ยังมีหลายๆเหตุการณ์ ที่พระเจ้าเงียบ และทำให้ผมสงสัยว่า พระเจ้าหายไปไหนนะ บางทีผมรู้สึกว่า พระเจ้าไม่เงียบ พระวิญญาณของพระองค์สนทนากับผมทุกเช้าตอนเฝ้าเดี่ยว แต่ว่าเรื่องที่ผมอธิษฐานทูลขอ พระเจ้ากลับเงียบไปซะงั้น ตอนที่ผมเป็นผู้เชื่อใหม่ เวลาพระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐาน ผมก็เกิดความสงสัยขึ้นตลอดเวลา ทำนองว่า พระเจ้ามีจริงมั๊ยนะ ถ้าพระเจ้ามีจริง ทำไมเงียบจัง ทำไมปล่อยให้ผมต้องเผชิญหน้ากับปัญหา อธิษฐานแล้วไม่เห็นเข้ามาช่วยเลย ผมจะไม่ไหวแล้วกับปัญหาที่เจอ ขอแล้วขออีกก็ไม่เห็นตอบซักที ตอนผมเป็นผู้เชื่อใหม่ ผมมักมีอาการแบบนี้ จนอยากจะเลิกเชื่อพระเจ้า แล้วหันกลับไปทางเก่า คุณเคยเป็นแบบนี้มั๊ยครับ
แต่หลายปีที่ผมค่อยๆเติบโตในความสัมพันธ์กับพระเจ้า ผมจึงเริ่มรู้จักและรู้ใจพระเจ้ามากขึ้น เขาเรียกว่า เริ่มหยั่งรู้น้ำพระทัยพระเจ้าครับ ถ้าคุณเป็นคริสเตียนใหม่ คุณต้องอ่านพระคัมภีร์เฝ้าเดี่ยว คุยกับพระเจ้าบ่อยๆหลายเดือนหลายปี แล้วสังเกตุว่า สถานการณ์แบบไหนพระเจ้าตอบคำอธิษฐาน และสถานการณ์แบบไหนพระเจ้าเงียบไม่ตอบ มันจะค่อยๆทำให้คุณหยั่งรู้ได้ถึงน้ำพระทัยพระเจ้า และจะพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างถูกต้องกับพระองค์ครับ และจิตวิญญาณก็จะเติบโตขึ้นอย่างสอดคล้องกับแผนการของพระเจ้าในชีวิตคุณ
แล้วพระวิญญาณก็ทำให้ผมระลึกได้ถึงข้อพระคัมภีร์หลายๆข้อที่ทำให้ผมได้เข้าใจว่า ทำไมพระเจ้าจึงเงียบ ไม่ตอบคำอธิษฐาน มันมีเหตุผลสำหรับทุกเหตุการณ์ที่พระเจ้าเงียบ เมื่อคุณรู้สาเหตุแล้วว่าเพราะอะไรพระเจ้เงียบ มันก็จะทำให้คุณหายจากความลังเลสงสัยในพระองค์ครับ ซึ่งก็ได้แก่
ประการแรก พระวิญญาณทำให้ผมระลึกได้ถึง
2เปโตร 3:9 "องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์... แต่พระองค์ทรงอดทนนานเพื่อพวกท่าน เพราะพระองค์ไม่ทรงปรารถนาให้ใครพินาศ แต่ทรงปรารถนาให้ทุกคนกลับใจเสียใหม่"
นี่เป็นเหตุผลแรกที่ทำไมพระเจ้าเงียบ ซึ่งก็คือ พระองค์ให้โอกาสคุณได้กลับใจใหม่จากบาปครับ ความเงียบทำให้คุณอึดอัดและสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าไม่ตอบ เหตุร้ายกำลังจวนตัวเข้ามาทุกทีแล้ว ปัญหาที่กดดันคุณจนเครียด บีบให้คุณต้องทบทวนพฤติกรรมตัวเองว่าคุณทำบาปอะไรหรือเปล่าที่ยังซ่อนไว้และไม่กลับใจ พระเจ้าไม่ได้เฉื่อยช้าที่จะตอบคำอธิษฐาน คุณจะสังเกตุว่า พระเยซูอธิษฐานอะไรก็ได้ทันทีเลย ไม่ช้าเลยใช่มั๊ยครับ เพราะพระเยซูไม่มีบาปเลย แต่ถ้าคุณขอแล้วขออีกแต่ไม่ได้รับ อาจเป็นสถานการณ์ที่พระเจ้าใช้แรงกดดันของปัญหา มากดดันให้คุณสำรวจตัวเอง ซึ่งถ้าคุณไม่ดื้อด้าน พระวิญญาณก็จะเร้าใจให้คุณระลึกได้ถึงบาปที่เคยทำและรู้สึกเสียใจต่อบาปนั้น แล้วนำมาสารภาพกลับใจจากบาปนั้น คล้ายกับสถานการณ์ตอนนี้ที่ดาวิดร้องคร่ำครวญด้วยความสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าเงียบ ก็เพราะในความเงียบ ดาวิดกำลังทุกข์ยากลำบากจากการไล่ล่าของศัตรู มันเป็นแรงกดดันทำให้เขาสำนึกผิดและร้องไห้เสียใจต่อบาปของเขาที่เคยล่วงประเวณีกับนางบัพเชบา ความเงียบที่พระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐาน มักทำให้คริสเตียนเราต้องมาถึงจุดกลับใจ รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจจากพระเจ้าครับ เป็นวิธีหนึ่งในการตีสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก โดยใช้ความเงียบในการฝึกวินัยชีวิตเรา
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สมดุล คุณอย่าไปคิดว่า สาเหตุที่พระเจ้าเงียบก็เพราะคุณทำบาปแล้วไม่สารภาพอยู่ร่ำไป จนฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกนะครับ เพราะยังมีอีกหลายๆสาเหตุที่พระเจ้าเงียบไม่ตอบคำอธิษฐาน คุณต้องอธิษฐานขอการเปิดเผยสำแดงจากพระวิญญาณในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกัน บางครั้งถ้าเป็นความบาปทีต้องกลับใจจากบาป ก็ต้องสารภาพและกลับใจอย่างจริงจังจริงใจ และยอมรับผลร้ายจากบาปที่ทำอย่างไม่ขมขื่นใจ และยอมจำนนให้เป็นไปตามวิธีที่พระเจ้าจะตีสอนคุณ ส่วนใหญ่ถ้ากลับใจจริงๆ พระเจ้าก็จะเมตตาและผ่อนหนักให้เป็นเบาครับ คือยังต้องรับผลของบาปอยู่ระยะหนึ่ง แต่จะได้รับการผ่อนหนักให้เป็นเบาด้วยพระคุณความเมตตาของพระองค์
แต่บางครั้งพระเจ้าเงียบ ก็เพราะสาเหตุอื่น ตัวอย่างเช่น คุณจำอับราฮัมกับซาราห์ได้มั๊ย พวกเขาอธิษฐานขออะไรจำได้มั๊ยครับ พวกเขาขอลูกชายในขณะที่ซาราห์เป็นหมัน แต่พระเจ้าเงียบไปกี่ปี
อับราฮัมต้องรอ 25 ปี กว่าพระเจ้าจะประทานลูกชายที่ทรงสัญญาไว้ให้ พระเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมเป็นครั้งแรกว่าเขาจะมีลูกหลานมากมายใน ปฐมกาล 12:2 ขณะที่อับราฮัมอายุ 75 ปี แต่ฝันของอับราฮัมก็เป็นจริง ซาราห์ตั้งท้องได้อย่างอัศจรรย์ อิสอัคลูกชายแห่งพระสัญญาก็คลอดออกมาตอนที่อับราฮัมอายุ 100 ปี ปรากฎใน ปฐมกาล 21:5
ในช่วงเวลาที่พระเจ้าเงียบ 25 ปี พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่า อับราฮัมและซาราห์ทำบาปอะไรเลยครับ ไม่เหมือนเคสของดาวิดที่ทำบาปของการล่วงประเวณีกับบัพเชบา เห็นมั๊ยครับพี่น้อง อับราฮัมก็ได้รับฉายาว่า บิดาแห่งความเชื่อและการเชื่อฟัง แต่ทำไมพระเจ้าเงียบต่อคำอธิษฐานของเขาตั้ง 25 ปีเลย เป็นคุณจะสงสัยพระเจ้ามั๊ย ถ้าคุณขอให้การงานเจริญรุ่งเรือง ขอให้มีเงินซื้อบ้านซื้อรถ ขอให้ปลดหนี้ก้อนโตได้ ขอให้มีคู่พระพรดีๆ หรือขอพระเจ้าเปลี่ยนแปลงนิสัยเสียๆของคู่ครอง
แต่ 25 ปีแล้วที่ขอ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ พระเจ้าเงียบมาตลอด คุณอาจจะทบทวนบาปตัวเองแล้วทบทวนอีก สารภาพกลับใจแล้วกลับใจอีก แต่พระเจ้าก็ยังเงียบ มันไม่ใช่เหตุผลจากการทำบาปแล้วไม่กลับใจแล้วนะครับ ในเคสของอับราฮัม สะท้อนถึงแผนการและน้ำพระทัยอะไรของพระเจ้าบ้าง คุณรู้มั๊ยครับ ลองอธิษฐานถามพระวิญญาณดูนะครับ สำหรับผม เรม่าห์ที่ได้รับคือ
พระวิญญาณสอนผมว่า ในเคสของอับราฮัม สาเหตุที่พระเจ้าเงียบไปตั้ง 25 ปี ในเรื่องนี้ คือพระองค์ตอบอยู่นะ แต่ตอบเรื่องอื่น แต่เรื่องขอลูกชายกลับไม่ตอบตั้ง 25 ปี เพื่ออะไร เหตุผลแรกก็คือ
ก็เพื่อจะทดสอบความเชื่อของอับราฮัม พระเจ้าทรงต้องการให้เขาเรียนรู้ที่จะวางใจในพระองค์อย่างต่อเนื่อง เป็นการเสริมสร้างความเชื่อให้แก่อับราฮัมให้เพิ่มพูนมากขึ้น ยิ่งคุณต้องรอคอยการตอบคำอธิษฐานนานเท่าไหร่ คุณจะยิ่งต้องใช้ความเชื่ออย่างต่อเนื่องในเรื่องนั้นยาวนานด้วยเช่นกัน ความเชื่อคล้ายๆกับกล้ามเนื้อ กลัามเนื้อต้องมีแรงต้านแล้วมันจึงจะแข็งแกร่งไม่อ่อนปวกเปียก แรงต้านของความเชื่อคืออะไร ก็คือสถานการณ์ที่เหลือเชื่อ และทำให้ลังเลสงสัยไงหล่ะครับ นี่คือแรงต้านของความเชื่อ ถ้าคุณต้อสู้กับความสงสัยไปได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สงสัยในพระเจ้า ความเชื่อศรัทธาของคุณจะเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนการไปวิ่งออกกำลังกายก็ต้องวิ่งไปทุกวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อร่างกายแข็งแกร่งแข็งแรง ดังนั้น สาเหตุที่บางครั้งพระเจ้าเงียบ อาจไม่ใช่คุณทำบาปแล้วไม่กลับใจ แต่เป็นเพราะพระองค์ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของความเชื่อวางใจพระองค์ให้เติบโตเข้มแข็งขึ้นต่างหาก ถ้าคุณเข้าใจและร้องอ๋อว่า เป็นอย่างนี้นี่เอง คุณก็จะรอคอยได้อย่างสบายๆเหมือนที่อับราฮัมรอคอยได้ถึง 25 ปีครับ
สาเหตุข้อ 2. ที่พระเจ้าเงียบก็คือ พระเจ้าต้องการทำให้อับราฮัมรู้ว่า การตอบคำอธิษฐานของพระเจ้า ไม่ได้ขึ้นกับความรัอนใจของเขา ไม่ได้ขึ้นกับเวลาของเขา แต่ขึ้นกับพระเจ้า เขาไม่สามารถบีบบังคับให้พระเจ้าตอบด้วยวิธีหรือในเวลาที่เขาตัองการ เขาต้องยอมจำนนต่อแผนการและเวลาของพระองค์ อิสอัคจึงคลอดออกมา ในเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนด ไม่ใช่ตามเวลาที่มนุษย์กำหนด เวลาคุณมาอธิษฐานขออะรไต่อพระเจ้า คุณต้องถ่อมใจยอมรับและตระหนักเสมอว่า คุณไม่ใช่เจ้านายของพระเจ้า คุณจะไปสั่งพระเจ้าไม่ได้ว่าต้องได้เดี๋ยวนี้วันนี้ คือคุณต้องให้พระเจ้าเป็นพระเจ้า เป็นกษัตริย์เป็นเจ้านายของคุณครับ คุณต้องพร้อมจะยอมรับแผนการและเวลาของพระองค์ ด้วยความเชื่อวางใจว่า เวลาของพระองค์จะดีที่สุดสำหรับคุณ ต้องให้ความเชื่อแบบนี้ฝังลึกในจิตใต้สำนึก แล้วคุณจะไม่ร้อนรนกระวนกระวายอยากให้พระเจ้าตอบเร็วๆ เพราะคุณจะคำนึงเสมอว่า คุณไม่ได้เจ้านายของพระเจ้า คุณมาขอความเมตตาจากพระองค์ ด้วยความเชื่อวางใจ เหมือนลูกมาขอความเมตตาจากพ่อ และไว้วางใจว่า เดี๋ยวพ่อก็จะจัดการให้ ตามวิธีและเวลาของพ่อครับ
สาเหตุประการที่ 3 ที่พระเจ้าเงียบ อาจเป็นเพราะพระองค์ต้องการให้การอัศจรรย์เป็นปาฏิหาริย์ที่มาจากพระองค์จริงๆ จนอับราฮัมกับซาราห์จะคิดว่าเป็นเพราะอย่างอื่นไม่ได้ คือซาราห์อายุ 90 ปีแล้ว แถมเป็นหมันด้วย ไม่มีทางมีลูกได้ตามปกติธรรมชาติ และอับราฮัมก็แก่มากแล้ว อายุตั้ง 100 ปีแล้ว ในความเป็นไปไม่ได้ของสายตามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงทำให้เป็นไปได้ เพื่ออะไร ก็เพื่อให้ทุกคนที่รู้จักอับราฮัม ต้องยอมรับว่า พระเจ้ามีจริงและยิ่งใหญ่อัศจรรย์เหนือธรรมชาติไร้ขีดจำกัด และเพื่อแสดงถึงการซื่อสัตย์ในการรักษาพระสัญญาของพระองค์ครับ ไม่เพียงคนที่รู้จักอับราฮัมในสมัยนั้นจะเกิดศรัทธาในความไร้ขีดจำกัดของพระเจ้า แต่เนื่องจากเรื่องราว story นี้บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลด้วย จึงทำให้คนที่อ่านไบเบิลก็จะเกิดศรัทธาวางใจในพลังอำนาจที่อัศจรรย์ไร้ขีดจำกัดของพระเจ้าด้วย เห็นมั๊ยครับพี่น้อง ถ้าคุณอธิษฐานขออะไร มีบางเรื่องที่ดูเหมือนพระเจ้าเงียบมาเป็นสิบๆปีแล้ว นั่นก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุ 3 สาเหตุแบบที่อับราฮัมเจอครับ จดไว้เลยนะครับ แล้วเอามาทบทวนเวลาที่คุณเกิดความสงสัยในพระเจ้าว่า ทำไมพระองค์เงียบจัง ไม่ตอบคำอธิษฐานซักที อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุดังที่ผมกล่าวมา
แล้วพระวิญญาณก็ทำให้ผมระลึกได้ถึง ยอห์น 11:6 กล่าวว่า: "เมื่อพระองค์ได้ยินว่า ลาซารัสป่วย พระองค์ยังทรงอยู่ที่ที่พระองค์ประทับอยู่นั้นอีกสองวัน"
เห็นมั๊ยครับพี่น้อง นี่เป็นตอนที่ลาซารัส น้องชายของนางมารีย์มาธาป่วยหนักใกล้ตาย พระเยซูรู้ข่าวแล้วแต่ก็ไม่รีบไปรักษา เพราะถ้ารีบไป มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะพระองค์รักษาคนป่วยหายมามากมายหลายคนแล้ว แต่พระเยซูจงใจเงียบ จงใจล่าช้า รออีกสองวันค่อยเดินทางไป เพื่อรอให้ลาซารัสตายเสียก่อน แล้วจะได้ไปทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ เรียกคนตายให้ฟื้นขึ้นมา เพื่อสำแดงให้ฝูงชนเห็นว่า พระองค์มีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจริงๆ ทำให้ฝูงชนมีความเชื่อศรัทธาว่า พระองค์คือพระเมสิยาห์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอดตัวจริงเสียงจริง จะได้ไม่ต้องสงสัยในพระองค์เวลาถูกจับไปตรึงกางเขน การถูกจับไปตรึงกางเขนไม่ใช่ว่าพ่ายแพ้ต่ออำนาจของศัตรู แต่เป็นการที่พระองค์ยอมเอง คือพระองค์เป็นพระบุตรพระเจ้า พระเยซูเคยกล่าวว่า พระองค์สามารถสั่งให้กองทัพฑูตสวรรค์มาช่วยให้พระองค์ไม่ต้องถูกจับตรึงกางเขนก็ได้ แต่เพื่อยอมที่จะไถ่บาปให้มนุษยชาติทั่วโลก จึงได้ยอมให้เขาจับตัวไปตรึงกางเขนครับ พระเยซูเงียบไปสองวัน ไม่รีบตอบการร้องขอจากนางมารีย์มารธา ไม่รีบไปรักษาลาซารัส สาเหตุทีเ่งียบก็เพราะ พระองค์มีแผนการใหญ่ครับ ซึ่งเป็นแผนการยอดเยี่ยมที่อาจจะใช้ชีวิตคุณเป็นท่อพระพรไปสู่คนมากมาย
แล้วพระวิญญาณก็ทำให้ผมระลึกได้ถึง โรม 12:2 ที่ท่านเปาโลกล่าวว่า "อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม"
เห็นมั๊ยครับพี่น้อง อีกสาเหตุหนึ่งที่พระเจ้าเงียบก็คือ พระองค์ต้องการให้คุณอย่าลอกเลียนแบบคนที่ไม่มีความเชื่อ แต่ให้รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ เพื่ออุปนิสัยของคุณจะถูกพระเจ้าเปลี่ยน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วก็จะทำให้คุณหยั่งรู้น้ำพระทัยยอดเยี่ยมของพระเจ้าไงหล่ะครับ การหยั่งรู้น้ำพระทัยพระเจ้า ก็จะทำให้คุณสามารถดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับน้ำพระทัยดีเลิศของพระองค์ได้ แล้วชีวิตคุณก็จะได้อยู่บนเส้นทางแห่งการอวยพรของพระเจ้าได้ตลอดไป นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งว่าทำไมพระเจ้าเงียบ อาจเป็นเพราะคุณและผมมัวมีค่านิยมแบบชาวโลกที่ไม่เชื่อพระเจ้าอยู่ มัวหลงไหลกับทรัพย์สินเงินทองความมั่งคั่ง อำนาจวาสนาบารมีแบบชาวโลกที่ไม่เชื่อพระเจ้า จึงทำให้พระองค์ต้องเงียบ ความเงียบทำให้คุณจะได้หันมาแสวงหาพระองคือย่างจริงจัง และหันมารับการเปลี่ยนแปลงจิตใจจากพระองค์ไงหละครับ
โอ้ไอซี เฝ้าเดี่ยววันนี้พระวิญญาณทำให้ผม get มากมายกับคำถามที่มีพี่น้องคริสเตียนหลายคนทักมาถามผมบ่อยๆว่า ทำไมพระเจ้าเงียบจัง ทำไมพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานของเขาเลย ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าพระเจ้าเงียบมาหลายปีแล้ว ขอหนุนใจให้ลองย้อนกลับบไปฟังใหม่อีกรอบ และทบทวนตัวเอง อธิษฐานให้พระวิญญาณเปิดเผยสำแดงว่า คำอธิษฐานใดที่พระเจ้าเงียบไม่ตอบ มันเป็นเพราะสาเหตุอะไรจากหลายๆสาเหตุ แล้วคุณก็จะหายสงสัยในพระเจ้าครับ อย่าลืมว่า ความสงสัยจะทำให้คุณขาดความเชื่อวางใจพระเจ้า และมันเป็นอุปสรรคที่จะได้เห็นการอัศจรรย์จากพระองค์ครับ
เรม่าห์ประการสุดท้ายที่ผมได้รับจากการเฝ้าเดี่ยววันนี้คือ ดาวิดเริ่มต้นด้วยความสงสัยในพระเจ้า แต่ตอนจบเขาลงเอยด้วยการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า และประกาศความเชื่อมั่นวางใจในพระคุณความรักความเมตตาของพระองค์ ประกาศความสัตย์ซื่อยุติธรรมของพระองค์ครับ เห็นมั๊ยครับพี่น้อง ดาวิดไม่ได้ลงเอยด้วยความท้อแท้ซึมเศร้าอยากตาย แต่เขากลับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ดังนั้น แม้คุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่พระเจ้าเงียบ นอกจากจะทบทวนจนได้รู้สาเหตุแล้วว่า พระเจ้าเงียบเพราะอะไร แต่สิ่งที่ควรทำคือ เลียนแบบดาวิดครับ อย่ามัวจมอยู่กับความหดหู่ห่อเหี่ยว ท้อแท้ท้อถอยสิ้นหวังซึมเศร้าอยากตาย คุณควรร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าทุกวันร่ำไป รักษาความเชื่อศรัทธาให้มั่นคง แล้วคุณจะมีความหวังมีพลังใจที่จะก้าวต่อไปแม้พระเจ้าจะเงียบ แม้จะยังไม่เห็นสัญญาณการตอบคำอธิษฐานก็ตาม อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง
เอาหล่ะครับ มาร่วมสนุกกัน เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ คุณได้รับเรม่าห์อะไร ก็ให้เขียนคอมเม้นท์ลงในใต้คลิปนี้นะครรับ
คุณเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้แล้วหรือยัง ถึงสาเหตุหลายๆสาเหตุที่ทำไมพระเจ้าจึงเงียบจัง ไม่ตอบคำอธิษฐานบางเรื่องของคุณซักที
เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ ให้คุณหยุดและอธิษฐานขอพระวิญญาเปิดเผยสำแดงให้คุณได้รับรู้ว่า เพราะอะไรพระเจ้าจึงไม่ตอบคำอธิษฐานบางเรื่องมานานแล้ว เมื่อรู้แล้ว ก็ให้พิมพ์คำตอบในคอมเม้นท์ใต้คลิปนี้นะครับ พรุ่งนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยกัน เพื่อจะหยั่งรู้แผนการและน้ำพระทัยพระเจ้าได้มากขึ้น แล้วชีวิตคุณก็จะไม่ขาดการอัศจรรย์เลย คุณจะกลายเป็นท่อพระพรใหญ่สู่ผู้คนในวงกว้างมากมายได้ อาเมนมั๊ยพีน้อง ขอพระเจ้าอวยพร