🎤 สวัสดีครับพี่น้อง! 🙌✨
🎧 คลิปเสียงในซีรีย์นี้เป็นการแบ่งปันเรม่าห์ 📖 จากการเฝ้าเดี่ยวด้วยหนังสือพระคัมภีร์ที่ชื่อ "สดุดี" 🎶 หากคุณติดตามรับฟังอย่างต่อเนื่องทุกวัน และอธิษฐานขอเรม่าห์พิเศษจากพระวิญญาณ 💖 คุณจะเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ✨ ความเคร่งเครียด วิตกกังวล จะค่อยๆ ลดลง และสันติสุขของพระเจ้าจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ 😊💞
🔔 ขอหนุนใจให้กดกระดิ่งและกดติดตามซีรีย์นี้ไว้เลยนะครับ! 🛎️📲
📖 สำหรับคลิปนี้เป็นบทเกริ่นนำ ผมจะแนะนำภาพรวมของหนังสือสดุดีก่อนเข้าสู่บทที่ 1 🌱
📜 "สดุดี" มีทั้งหมด 150 บท ถ้าเราเฝ้าเดี่ยววันละบท ก็ใช้เวลาถึง 150 วัน หรือประมาณ 5 เดือน 🗓️ แต่บางบทอาจได้รับเรม่าห์เยอะ อาจใช้เวลามากกว่า 1 วัน ดังนั้นซีรีย์นี้อาจยาวถึง 6 เดือนเลยครับ! ⏳
🖊️ สดุดีถูกเขียนโดยบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์หลายท่าน เช่น:
- กษัตริย์ดาวิด ✍️ (73 บท)
- อาสาฟ 🎶 (12 บท)
- บุตรโคราห์ 🏛️ (9 บท)
- โซโลมอน 👑 (2 บท)
- โมเสส ⛰️ (1 บท)
🔹 เนื้อหาในสดุดีเน้นการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า 🎶✨ เช่น:
✅ พระเจ้าทรงเป็นความรัก ❤️
✅ ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเมตตา 🙏
✅ ทรงบริสุทธิ์และยุติธรรม ⚖️
✅ ทรงมีฤทธิ์อำนาจสูงสุดเหนือทุกสิ่ง 🌍🔥
💡 นอกจากนี้ สดุดียังสะท้อนถึงอารมณ์ของมนุษย์ต่อพระเจ้า เช่น ความสำนึกผิด 😔 การขอบพระคุณ 🎁 และการพึ่งพาพระเจ้าในยามทุกข์ยาก 🛡️
🌿 เมื่อคุณเฝ้าเดี่ยวด้วยสดุดีทุกวัน 📖✨ คุณจะได้รับ:
✔️ ความเข้าใจและเข้าถึงพระเจ้าอย่างถูกต้อง 🤲
✔️ ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระองค์ 💕
✔️ จิตใจที่อบอุ่นและสัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้า 🕊️
✔️ การเปลี่ยนแปลงในระดับจิตใต้สำนึก 🧠✨
✔️ กำลังภายในที่เอาชนะความท้อแท้และความเจ็บปวด 💪🔥
🛐 คำภาวนาแนะนำตามสถานการณ์:
🔹 ต้องการกำลังใจและความหวัง ➝ สดุดี 23 🙌
🔹 อยากพบพระเจ้าอย่างใกล้ชิด ➝ สดุดี 103 💞
🔹 เรียนรู้คำอธิษฐานใหม่ ➝ สดุดี 136 🗣️
🔹 ร้องเพลงบทใหม่ ➝ สดุดี 92 🎶
🎵 การร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้ามีพลังมาก! ✨ ตัวอย่างจากพระคัมภีร์:
📖 กษัตริย์เยโฮชาฟัท ชนะศึกด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า 🎺🔥 (2 พศด. 20:21-22)
📖 เปาโลกับสิลาส ถูกขังในคุกแต่ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า แล้วประตูคุกเปิดออก! 🚪🔓 (กจ. 16:25-26)
⚡ สภาพจิตใจขณะร้องเพลงมีความสำคัญ! อย่าร้องเพลงด้วยความกลัว 😨 แต่ให้ร้องด้วยความเชื่อมั่นในพระเจ้า 💪🔥 แล้วคุณจะเห็นการอัศจรรย์! 🌟
🛐 หากคุณต้องการ:
✅ รู้จักพระเจ้ามากขึ้น ➝ สดุดี 24 ✝️
✅ รู้จักตัวเองมากขึ้น ➝ สดุดี 8 🪞
✅ วิธีเข้าหาพระเจ้าแต่ละวัน ➝ สดุดี 5 ☀️
✅ สารภาพบาปและขอการอภัย ➝ สดุดี 51 🕊️
✅ เอาชนะความรู้สึกไร้ค่าและซึมเศร้า ➝ สดุดี 139 💖
🔥 ติดตามซีรีย์นี้แล้วคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! พระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ! 🎯
กดไลค์ ❤️ กดแชร์ 📤 และกดติดตาม 🔔 เพื่อไม่พลาดทุกคลิปนะครับ! 😊
🎤 ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกท่านครับ! 🙌✨
จัดทำคลิปโดย .... คุณบิ๊ก
พันธกิจ .... Big Miracle
Line iD... BigBig477
สวัสดีครับพี่น้อง คลิปเสียงในซีรีย์นี้ เป็นการแบ่งปันเรม่าห์จากการเฝ้าเดี่ยวด้วยหนังสือพระคัมภีร์ที่ชื่อ สดุดี ถ้าคุณติดตามรับฟังอย่างต่อเนื่องทุกวัน และอธิษฐานขอเรม่าห์พิเศษจากพระวิญญาณควบคู่ไปด้วย จิตวิญญาณของคุณจะเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ความเคร่งเครียดหวาดกลัววิตกกังวลในชีวิตจะค่อยๆลดน้อยลงไป ความร่าเริงเบิกบาน ชื่นชมยินดี และสันติสุขในพระเจ้าจะค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้น และเมื่อจิตวิญญาณคุณเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอิ่มเอมใจในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระเจ้าแล้ว คุณจะเติบโตขึ้นในความเชื่อศรัทธาวางใจพระเจ้า เติบโตขึ้นในความรักพระเจ้า และเติบโตขึ้นในความหวังใจที่มีต่อพระองค์มากยิ่งขึ้น คุณจะได้เห็นการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่จากพระเจ้า และได้เห็นพระคุณความรักของพระองค์ที่มีต่อคุณอย่างเต็มขนาด มีผลให้ชีวิตทุกด้านของคุณจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นดุจต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งออกผลเสมอตามฤดูกาลของมัน ขอหนุนใจให้กดกระดิ่งกดติดตามซีรีย์นี้ไว้เลยนะครับ
สำหรับคลิปนี้ จะเป็นบทเกริ่นนำนะครับ ผมจะแนะนำภาพรวมของหนังสือสดุดี ก่อนที่จะเข้าสู่บทที่ 1
หนังสือสดุดีนี้ มีทั้งหมด 150 บท ถ้าเราเฝ้าเดี่ยวไปวันละบท ก็จะใช้เวลาถึง 150 วัน หรือประมาณ 5 เดือนเลยทีเดียวครับ แต่บางบทผมอาจได้รับเรม่าห์เยอะ ซึ่งบางบทอาจใช้เวลามากกว่า 1 วัน ดังนั้น ในซีรีย์นี้อาจกินเวลายาวถึง 6 เดือนหรือครึ่งปีเลยนะครับ
ผมไปค้นคว้าเพิ่มเติม ก็พบว่า หนังสือสดุดีเขียนโดยบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์หลายคนนะครับ แต่เขียนโดยกษัตริย์ดาวิดมากที่สุด เพราะดาวิดเขียนถึง 73 บท คนที่ชื่ออาสาฟเขียน 12 บท บุตรโคราห์เขียน 9 บท โซโลมอนก็เขียนนะครับ คือมี 2 บท และโมเสสก็เขียนด้วยนะ 1 บทครับ คือเขาเอาที่โมเสสเขียนมาบรรจุไว้ในหนังสือสดุดีด้วย
เนื้อหาในหนังสือสดุดี ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การยกย่องสรรเสริญพระเจ้า คือสรรเสริญในพระลักษณะของพระเจ้า เช่น พระเจ้าทรงเป็นความรัก เปี่ยมด้วยพระคุณความเมตตา ทรงบริสุทธิ์และยุติธรรม นี่คือพระลักษณะเด่นๆของพระเจ้าที่ถูกยกย่องสรรเสริญในหนังสือสดุดี
หนังสือสดุดียังยกย่องสรรเสริญฤทธิ์อำนาจยิื่งใหญ่สูงสุดของพระเจ้าด้วย สรรเสริญถึงพระราชกิจยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทำในเวลาที่เหมาะสมเสมอ ทั้งฤทธิ์อำนาจในการทรงสร้างโลกและจักรวาล การทรงสร้างมนุษย์พืชและสัตว์ทุกชนิด ฤทธิ์อำนาจในการปกครองและควบคุมอยู่เหนือทุกสถานการณ์ของโลก
ไม่เพียงเท่านั้น หนังสือสดุดียังเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่มีต่อพระเจ้า เช่น การรำพันถึงความรู้สึกสำนึกผิดในบาป การขอบพระคุณในการอภัยโทษบาป การเยียวยาบำบัดรักษา การปกป้อง การจัดเตรียม และการนำทางของพระเจ้า ทำให้เราสามารถไว้วางใจพระองค์ในยามที่เราต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบากในชีวิต การเฝ้าเดี่ยวด้วยหนังสือสดุดีเป็นประจำทุกวัน จะทำให้คุณเข้าใจและเข้าถึงพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง จะทำให้คุณพัฒนาความสัมพันธ์กับพระองค์ได้อย่างถูกทางและลึกซึ้ง จะทำให้คุณอบอุ่นในหัวใจตลอดเวลาเพราะสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตของพระองค์ในชีวิตคุณ
ถ้อยคำในหนังสือสดุดี จะช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณที่แห้งผากของคุณให้ชุ่มชื้นชุ่มฉ่ำด้วยพระคุณความเมตตาจากพระองค์ และจิตใจจิตวิญญาณของคุณจะถูกชำระให้ใสสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น รับการเปลี่ยนแปลงที่ลึกเข้าถึงระดับจิตใต้สำนึก เมื่อความคิดของคุณจดจ่อที่ถ้อยคำพระเจ้าในหนังสือสดุดีบ่อยๆ พระวิญญาณที่สถิตในตัวคุณ ก็จะทำให้คุณยิ่งสนิทสนมรู้จักและรู้ใจพระเจ้ามากขึ้นทุกๆวัน เมื่อคุณเผชิญสถานการณ์ที่เหมือนอับจนและสิ้นหวัง แต่ถ้าจิตวิญญาณของคุณสนิทสนมใกล้ชิดพระเจ้า คุณจะมีความเข้มแข็งภายในเหมือนมีกำลังภายในอย่างในหนังจีนเลยครับ คุณจะเข้มแข็งในการเอาชนะความหดหู่หอเหี่ยวท้อแท้สิ้นหวังซึมเศร้าอยากตายได้ ด้วยถ้อยคำพระจ้าในหนังสือสดุดีนี้แหละครับ คุณจะเอาชนะความเจ็บปวด และการทดลองทุกรูปแบบได้ คุณจะสัมผัสได้ถึงการค้ำจุนจากพระเจ้าในทุกๆสถานการณ์ที่ยากลำบากของคุณ
และถ้าเมื่อใดคุณทำบางอย่างผิดพลาดจนเกิดความรู้ฟ้องผิดในใจตลอดเวลา เมื่อคุณนำมาสารภาพต่อพระองค์อย่างจริงใจ ถ้อยคำจากหนังสือสดุดี จะช่วยบำบัดเยียวยาบาดแผลจากความบาปที่คุณทำได้อย่างชงัด คุณจะมีความหวังกำลังใจที่เริ่มต้นเดินใหม่กับพระเจ้า ด้วยพระคุณความเมตตายิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อคนบาปที่สำนึกผิดและพร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลงจากพระองค์ ความห่างเหินจะกลายเป็นความสนิสนม ความรู้สึกฟ้องผิดจะกลายเป็นความรักลึกซึ้งต่อความเมตตาของพระเจ้าที่อภัยให้กับความผิดพลาดของคุณ
เมื่อคุณตะหนักว่า คุณได้รับประโยชน์ ได้รับพระพรมากมาายจากการได้มีความสัมพันธ์สนิทสนมลึกซึ้งกับพระเจ้า คุณจะรู้สึกขอบพระคุณด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจอยู่บ่อยๆ แล้วผลจะเกิดอะไรขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือ ชีวิตการอธิษฐานของคุณนั้นก็จะเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ใช่อธิษฐานแบบคนเคร่งศาสนาอีกต่อไป คุณจะอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยความมั่นใจและไว้วางใจด้วยความรู้สึกเหมือนลูกมาคุยกับพ่อที่รักและห่วงใยคุณ ความรู้สึกสนิทสนมเช่นนี้สำคัญมากต่อการได้รับคำตอบในการอธิษฐาน ดังนั้น เป็นคริสเตียนอย่าทำตัวเหมือนคนเคร่งศาสนา เพราะคนเคร่งศาสนาจะไม่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับพระเจ้า เขาพยายามทำตามกฎศาสนาด้วยท่าทีที่ปราศจากความรักพระเจ้า แต่ถ้าคุณเป็นคริสเตียนในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูได้ทรงนำคุณมาอยู่ในฐานะลูกของพระเจ้าแล้ว คุณควรเข้าหาพัฒนาความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างเป็นส่วนตัวราวกับลูกเข้าหาพ่อ คุณยังต้องทำตามกฎบัญญัติ แต่ไม่ได้ทำด้วยท่าทีแบบคนเคร่งศาสนาเพื่อหวังจะได้รับความรอดจากการถูกลงโทษ หรือหวังจะได้รับการยอมรับจากพระเจ้า แต่คริสเตียนในพันธสัญญาใหม่ คุณได้รับการอภัยโดยทางความเชื่อกางเขนพระเยซู คุณได้รับความรอดจากการถูกพิพากษาลงนรกแล้ว คุณถูกเปลี่ยนสถานะจากคนบาปเป็นคนชอบธรรมแล้ว คุณมีตำแหน่งใหม่คือมีตำแหน่งเป็นลูกพระเจ้าแล้ว คุณได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์จากพระเจ้าแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพยายามดิ้นรนทำตามกฎบัญญํติเพื่อจะได้รับสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา เพราะพระเยซูได้ทำเพื่อคุณแล้วที่กางเขน แต่คุณยังต้องทำตามกฎบัญญัติอยู่ ด้วยท่าทีใหม่ คือด้วยท่าทีของการเป็นลูก ไม่ใช่เพื่อจะได้รับการยอมรับ คุณได้รับการยอมรับแล้วคุณจึงทำตามกฎบัญญัติครับ โดยพึ่งพาพลังของพระวิญญาณช่วยคุณ เพื่ออะไร ก็เพื่อคุณจะได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระองค์ และจะได้ดำเนินชีวิตใหม่ให้สมกับการเป็นคนชอบธรรม สมกับการเป็นลูกพระเจ้า ด้วยการดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ ไม่ตามเนื้อหนังอีกต่อไป เพื่อคุณจะได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับพระเจ้าได้โดยไม่มีอะไรขวางกั้น และคุณจะได้หยั่งรู้น้ำพระทัยดีเลิศที่พระองค์มีต่อคุณ และปรับชีวิตคุณให้สอดคล้องกับแผนการและน้ำพระทัยของพระบิดา ทำแบบนี้แล้วชีวิตคริสเตียนของคุณก็จะจำเริญขึ้นทุกด้าน ขอย้ำว่าไม่ใช่เพื่อจะได้รับความรอด เพราะคุณได้รับความรอดแล้ว แต่ที่คุณยังเชื่อฟังตามกฎบัญญํติ ก็ด้วยท่าทีใหม่คือท่าทีที่รักพระเจ้า อยากดำเนินชีวิตใหม่ให้เป็นที่พอพระทัยของพ่อในสวรรค์ครับ แล้วผลสนองก็คือ คุณจะได้รับพระพรอย่างเต็มขนาดจากพระบิดาที่คุณรักและสนิทสนมครับ ทั้งพระพรด้านกายภาพและพระพรด้านฝ่ายวิญญาณ
ในโลกที่ไม่มีความยุติธรรมนี้ เพราะยังเต็มไปด้วยความบาป ไม่เหมือนอยู่ในสวรรค์ ดังนั้น ขณะที่คุณดำเนินชีวิตบนโลก คุณอาจถูกโดดเดี่ยวจากคนบาป หรือคุณอาจมีเพื่อนที่ทอดทิ้งคุณ แต่เมื่อคุณเฝ้าเดี่ยวด้วยหนังสือสดุดีต่อเนื่องทุกๆวัน คุณจะพบว่า คุณไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป คุณจะสัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้าอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ความสนิทสนมจะขจัดความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ขจัดความหวาดกลัววิตกกังวล ขจัดความสงสัย และความเหงาและซึมเศร้าออกไปได้หมด
เมื่อคุณต้องการคำปลอบประโลมใจและความหวังในขณะที่กำลังอับจนหนทาง ให้ภาวนาสดุดีบทที่ 23
เมื่อคุณต้องการพบพระเจ้าอย่างสนิทสนมใกล้ชิด ให้ภาวนาสดุดีบทที่ 103
เมื่อคุณต้องการเรียนรู้คำอธิษฐานใหม่ๆ ให้ภาวนาสดุดีบทที่ 136
เมื่อคุณต้องการร้องเพลงบทใหม่ ให้ภาวนาสดุดีบทที่ 92 คุณรู้หรือไม่ว่า การร้องเพลงนมัสการสรรเสริญพระเจ้า มีผลต่อการซึมซับรับเอาถ้อยคำพระเจ้าให้ฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกได้ดีกว่าแค่พูดเฉยๆ ในขณะที่คุณร้องเพลงด้วยอารมณ์ความรู้สึกและด้วยจิตวิญญาณ ถ้อยคำจากเพลงจะตอกย้ำฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคุณได้มากกว่าแค่พูดเฉยๆ อารมณ์ความรู้สึกจึงเป็นสื่อที่จะเข้าถึงพระเจ้าได้ดีกว่าแค่พูดด้วยปาก จำการอธิษฐานรับเชื่อพระเยซูได้มั๊ย คุณไม่เพียงพูดด้วยปาก แต่คุณต้องเชื่อด้วยใจ ใจมี 2 ส่วนคึอ ส่วนที่เป็นจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก การร้องเพลงนมัสการพระเจ้า จะทำให้ความเชื่อของคุณฝังลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึกครับ ดังนั้น ให้ร้องเพลงนมัสการสรรเสริญพระเจ้าบ่อยๆ เพราะสิ่งที่เข้าถึงพระเจ้าได้อย่างลึกซึ้งคืออารมณ์ความรู้สึกของจิตใจคุณครับ ไม่ใช่แค่ในสมอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ในวันอาทิตย์ที่คริสเตียนไปเข้าโบสถ์ ทำไมจึงต้องมีการร้องเพลงนมัสการพระเจ้ากัน และเนื้อเพลงส่วนใหญ่ก็นำมาจากหนังสือสดุดี 150 บทนี่แหละครับ ตัวอย่างเช่น เพลง 1 หมื่นเหตุผลที่จะสรรเสริญพระเจ้า เคยฟังมั๊ยครับ เพลงนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือสดุดีบทที่ 103 ข้อ 1
การร้องเพลงนมัสการพระเจ้าด้วยความเชื่อเต็มเปี่ยม มักทำให้เกิดการอัศจรรย์ผ่าทางตันครับ ในพันธสัญญาเดิม กษัตริย์เยโฮชาฟัดก็มาถึงทางตัน เพราะมีข้าศึก 3 เหล่าทัพรวมตัวกันมาโอบล้อมอิสราเอล ซึ่งมีกำลังทหารน้อยกว่าหลายเท่า แต่กษัตริย์เยโฮชาฟัดระดมทหารเล็กน้อยที่มี เดินเข้าสู่สนามรบด้วยการร้องเพลงนมัสการพระเจ้าอย่างฮึกเหิมไม่หวาดกลัว แล้วปรากฎว่า การอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ พระเจ้าไปทำให้ข้าศึกกลับทะเลาะกันเองแล้วก็แตกพ่ายไปเองโดยเยโฮชาฟัดไม่ได้ทำอะไรเลย
ในพันธสัญญาใหม่ ก็มีตอนหนึ่งที่เปาโลกับสิลาศถูกจับขังคุก วันพรุ่งนี้อาจถูกนำไปประหาร เขาสองคนไม่ได้อยู่ในอารมณ์หวาดกลัวแม้จะเจอทางตันอับจนหนทาง แต่กลับอยู่ในอารมณ์ฮึกเหิมด้วยการร้องเพลงสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ด้วยสภาพอามรณ์แบบนี้คือ ฮึกเหิมไม่หวาดกลัววิตกกังวล แต่เป็นอารมณ์ทีเ่ต็มเปี่ยมด้วยควคามเชื่อมั่นศรัทธาวางใจพระเจ้า การอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ พระเจ้าก็ไปทำให้รากคุกสั่นสะเทือน ประตูคุกเปิดออก พวกเขาก็เป็นอิสระได้ครับ นี่คือผลลัพธ์ของการร้องเพลง ไม่ใช่แค่นั่งอธิษฐานอย่างหวาดกลัว แต่ร้องเพลงด้วยอารมณ์เชื่อมั่นศรัทธาในพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม สภาพอารมณ์จิตใจขณะร้องเพลงนี้มีความสำคัญในการสื่อสารกับพระเจ้า คุณต้องไม่เข้าหาพระเจ้าด้วยอาการหวาดผวาจิตตก แต่คุณต้องเข้าหาพระองค์ด้วยอารมณ์ฮึกเหิมเชื่อมั่นในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ฺ และมั่นใจในพระคุณความรักของพระองค์ แล้วการอัศจรรย์ผ่าทางตันก็จะเกิดขึ้นครับ
เมื่อคุณต้องการรู้จักและรู้ใจพระเจ้ามากขึ้น ให้ภาวนา สดุดี บทที่ 24
เมื่อคุณต้องการรู้จักตัวเองมากขึ้น ให้ภาวนาสดุดี 8
เมื่อคุณต้องการรู้วิธีเข้าหาพระเจ้าในแต่ละวัน ให้ภาวนาสดุดี 5
เมื่อคุณพลาดพลั้งทำบาป และรู้สึกฟ้องผิดอยู่ตลอด ให้ภาวนาสดุดี 51
เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ให้ภาวนาสดุดี 139
และมีอีกหลายๆสภาพอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นลบ คุณสามารถขจัดอารมณ์ลบๆออกไปได้ด้วยการภาวนาสดุดีในบทต่างๆที่เกี่ยวกับอารมณ์ลบๆเหล่านั้น คุณต้องหย่ายอมปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกลบๆเกาะกินใจและฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึก เพราะมันจะยิ่งทำให้จิตวิญญาณคุณอับเฉาเหี่ยวแห้งจนซึมเศร้าอยากตาย คุณต้องรีบภาวนาพระคัมภีร์สดุดีในบทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกลบๆนั้น เพื่อขับไล่มันออกไปจากจิตใต้สำนึก แล้วร้องเพลงบทใหม่ เพลงที่สรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคุณแทน ทำแบบนี้บ่อยๆ คุณจะเติบโตเข้มแข็งขึ้นในความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า แล้วการอัศจรรย์ผ่าทางตันจะเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงครับ
เอาหล่ะครับ ผมได้เกริ่นนำมาเยอะแล้วเกี่ยวกับความเป็นมาของพระคัมภีร์สดุดี หวังว่าคุณคงได้รับแรงบันดาลใจที่อยากจะติดตามเฝ้าเดี่ยวไปด้วยกันในซีรีย์ใหม่ที่เราจะรับเรม่าหฺจากพระคัมภีร์สดุดีด้วยกันไปตลอดครึ่งปีนี้ครับ เพื่อคุณและผมจะไม่มีจิตวิญญาณที่เติบโตเข้มแข็งขึ้นในความเชื่อมั่นศรัทธาวางใจพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และเราจะก้าวผ่านสถานการณ์เลวร้ายของปลายยุคสุดท้ายนี้ไปได้อย่างสบายๆด้วยพลังของพระเจ้าที่สถิตอยู่ในชีวิตเรา แล้วเราจะเป็นเกลือเป็นแสงสว่าง เป็เนครื่องมือของพระเจ้า นำคนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังซึมเศร้าอยากตาย ให้หันมารับพระคุณคาวมรักความเมตตาจากพระเจ้าได้ อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง ขอพระเจ้าอวยพร