EP5 เทคโนโลยี vs พระเจ้า

วันที่เทศนา: 5 ตุลาคม 2025

ข้อพระคัมภีร์หลัก: ปฐมกาล 1:27, โรม 12:2, 2 โครินธ์ 5:17

โดยคุณบิ๊ก พันธกิจ Big miracle

ติดต่อแบ่งปันความเห็น แอดไลน์ไอดี masterlek

สวัสดีครับพี่น้องที่รัก...

ทุกวันนี้ เมื่อคุณเปิดดูคลิปข่าวความก้าวหน้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี  คุณอาจรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังไซไฟเหมือนผมเลยมั๊ยครับ 

คุณจะได้ยินข่าวที่น่าทึ่ง..เช่น  นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ยีนยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ ซึ่งจะทำให้เราย้อนเวลากลับเป็นหนุ่มสาวได้  , อีกหน่อยมนุษย์จะเอาชนะความแก่ได้ และยืดเวลาตายช้าลงไปได้หลายร้อยปีเลย 

และในห้องแลบกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมดลูกเทียม แบบที่เคยมีข่าวว่า ในประเทศจีนสามารถทำให้หุ่นยนต์ตั้งท้องได้ แต่เรื่องหุ่นยนต์ตั้งท้องเป็นข่าวปลอมนะครับ ส่วนข่าวเรื่องมดลูกเทียมเป็นข่าวจริง มนุษย์พยายามสร้างตัวอ่อนทารกขึ้นมาเองนอกมดลูกได้แล้วครับ 

หรือแม้กระทั่ง... ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ สามารถปลุกชีพหมาป่าโบราณ ที่สูญพันธุ์ไปนับหมื่นปีให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง จากซากฟอสชิลครับ คล้ายๆในหนังเรื่องจูราสสิกปาร์ค ที่ปลุกชีพไดโนเสาร์ขึ้นมาจากซากฟอสซิล  เทคโนโลยีชีวะภาพก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพราะอะไรครับ  ก็เพราะมีเจ้าเทคโนโลยี ai มาช่วยเร่งเครื่องให้กับหลายๆเทคโนโลยีครับ

คุณรู้มั๊ยครับว่า เมื่อเร็วๆนี้ นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง ชื่อ ยูวาล โนอาห์ แฮรารี ได้กล่าวว่า มนุษยชาติกำลังก้าวจากยุคของ  "โฮโมเซเปียนส์" (มนุษย์ผู้ชาญฉลาด) ไปสู่ยุคของ "โฮโมเดอุส" (มนุษย์ผู้เป็นพระเจ้า)  ที่ซึ่งมนุษย์ไม่เพียงแค่ยอมรับกฎของธรรมชาติ แต่เรากำลังลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติ กำลังทำตัวเป็นพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆครับด้วยเทคโนโลยีใหม่ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

คราวนี้มาดูพวกเรา ในฐานะที่เป็นคริสเตียน เป็นลูกพระเจ้า เราควรจะคิดและรู้สึกอย่างไรกับสิ่งเหล่านี้ครับ? เราควรจะตื่นเต้นไปกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี? หรือเราควรจะยำเกรง ต่อการที่มนุษย์กำลัง "เล่นบทเป็นพระเจ้า"? วันนี้ ให้เรามาแสวงหาคำตอบจากพระวจนะของพระเจ้าด้วยกันครับ

ก่อนอื่นเลย เราต้องเริ่มต้นด้วยความจริงที่น่ายินดีครับ... เพราะความสามารถในการคิดค้น, จินตนาการสร้างสรรค์, และแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้นั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะเราถูกสร้างขึ้นตาม "พระฉายของพระเจ้า" ครับ  

ปฐมกาล 1:27 กล่าวว่า "พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายของพระองค์ ตามพระฉายของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น..." คุณจะเห็นว่า พวกหมาแมวหรือสัตว์ทั้งหมดบนโลกนี้ ไม่มีเผ่าพันธ์ไหนที่มีลักษณะฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์เหมือนมนุษย์เลย พวกมันเหมือนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่อัพเกรดไม่ได้ ถูกสร้างมาอย่างไรก็เป็นแบบนั้นมาหลายพันปี พวกมันไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆได้เหมือนมนุษย์เลย มันดำเนินชีวิตไปตามสิ่งที่เรียกว่า สัญชาติญาณเท่านั้น 

ตัวอย่างสัญชาติญาณของสัตว์เช่น ผมเลี้ยงแมวไว้ตัวนึง มันชอบมาคลอเคลียเค้าแข้งเค้าขาผม และพอมันมีลูก ลูกมันก็ชอบมาเค้าแข้งเค้าขาผมเหมือนกัน เป็นแบบนี้หมด โดยที่เราไม่ได้สอน นี่แหละคือสัญชาติญาณ ในขณะที่สุนัขมันไม่ได้มาคลอเคลียแข้งขาเหมือนแมว คล้ายๆมันถูกโปรแกรมมาอีกแบบนะครับ หลายพันปีก่อนพวกมันเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น

แต่มนุษย์ไม่เป็นแบบนั้นครับ มนุษย์เมื่อหลายพันปีก่อนเคยอาศัยในถ้ำ ขี่ม้า ล่าสัตว์ ปลูกพืชทำกสิกรรม แต่เดี๋ยวนี้พวกเราเปลี่ยนไปมาก เราอาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นเอง เราเปลี่ยนจากขี่ม้าเป็นรถยนต์ เปลี่ยนจากล่าสัตว์เป็นทำงานอหาเงิน เพราะอะไร ก็เพราะเรามีสติปัญญา มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ สติปัญญาทำให้เราค้นคว้าทำความเข้าใจรหัสพันธุกรรม DNA ได้ , ส่วนจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ก็ทำให้เราพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้...พวกสัตว์ไม่มีตรงนี้ มันจึงแป๊กอยู่กับที่  และสติปัญญาความคิดสร้างสรรค์นี่แหละ ล้วนเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เผ่าพันธ์มนุษย์เรา  และมันคือส่วนเสี้ยวเล็กๆ แห่งพระลักษณะของพระองค์ที่สะท้อนอยู่ในตัวเรา ที่เรียกว่า เราเป็นพระฉายของพระองค์นั่นเอง

การคิดค้นสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็มีข้อดีมากมายนะครับ เช่น การสร้างมดลูกเทียม มีประโยชน์เพราะจะช่วยชีวิตทารกที่คลอดก่อนกำหนดได้ ต่อลมหายใจตัวอ่อนได้ เทคโนโลยีการปลุกชีพหมาป่าโบราณที่สูญพันธ์ไปแล้วหลายหมื่นปี มีประโยชน์คือ ทำให้เราสามารถปกป้องการสูญพันธ์ของสัตว์บางชนิดที่ใกล้สูญพันธ์ในยุคนี้ได้ เทคโนโลยี ai ช่วยให้เรามีเครื่องมือเพิ่ม productivity ได้อย่างทวีคูณ เราสามารถขอบคุณพระเจ้าได้! เพราะนี่คือการใช้สติปัญญาที่พระองค์ประทานให้ เพื่อแสดงออกถึงความเมตตา, การสงวนรักษาชีวิต, และการดูแลผู้ที่อ่อนแอ หรือการเสริมสมรรถนะของมนุษย์ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าครับ

แต่ปัญหาคืออะไร ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ "สติปัญญา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์" ที่พระเจ้าให้เรามา เพราะทุกสิ่งที่พระเจ้าให้เรามาล้วนดีทั้งนั้น แต่ปั้ญหามันอยู่ที่  "แรงจูงใจ" ของเราเปลี่ยนไป... แรงจูงใจของเราเริ่มผิดเพี้ยนไปจากพระประสงค์ของพระเจ้า เพราะเราเริ่มใช้สติปัญญาความคิดสร้างสรรค์ที่พระเจ้าให้มา  โดยไม่ใช่เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ แต่กลับเพื่อยกตัวเองขึ้นเป็นพระเจ้าเสียเอง

นี่ก็คือการทดลอง เป็นการทดลองที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ...เป็นการทดลองยั่วยุให้ปฎิเสธพระเจ้า  เป็นเสียงกระซิบของงูในสวนเอเดน ที่บอกว่า "เจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า" (Genesis 3:5) และเป็นความทะเยอทะยานเดียวกันกับที่มนุษย์สร้าง "หอคอยบาเบล" เพื่อจะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองและไปให้ถึงฟ้าสวรรค์ด้วยกำลังของตนเอง (Genesis 11)

คราวนี้ เมื่อเรามองดูเทคโนโลยี "การย้อนวัย" (Cellular Reprogramming) ไม่ใช่ชลอวัยนะครับ แต่ย้อนวัย ถ้าคุณอายุ 60 คุณสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นได้  นี่เป็นภาพสะท้อนอย่างชัดเจน ของความต้องที่จะเอาชนะความแก่ชราและความตาย คือความพยายามที่จะลบล้างผลของความบาปด้วยน้ำมือของเราเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพระเยซูพระผู้ไถ่ 

และผลลัพธ์ที่ของงานวิจัยนี้ก็น่าขนลุกมากครับ... การพยายามย้อนวัยเซลล์อย่างสุดขั้ว กลับสร้างสิ่งมีชีวิตที่เป็นเหมือนเอเลี่ยนครับ สัตว์ที่นำมาทดลอง มี "เนื้องอกประหลาด" (Teratoma) ที่มีทั้งฟันและกระดูกงอกขึ้นมาผิดที่  นี่คือภาพฝ่ายวิญญาณที่ชัดเจนว่า... เมื่อมนุษย์พยายามสร้างชีวิตในแบบของตัวเอง โดยปราศจากพระเจ้า ผลลัพธ์ที่ได้มักจะน่ากลัวและมี error ผิดพลาดเสมอ

เทคโนโลยี ai ก็น่ากลัวยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์นะครับ เพราะอีก 2-3 ปี เจ้า ai มันจะสร้างตัวมันเองได้ สมมุติว่า ai เวอร์ชั่น 1 มีความฉลาด 100 เจ้าเวอร์ชั่น 1 มันจะสร้างเวอร์ชั่นสองที่มีความฉลาดมากกว่ามันเป็น 400 เท่า แล้วเจ้าเวอร์ชั่นสองจะสร้างเวอร์ชั่นสามที่มีความฉลาดมากกว่ามัน 1000 เท่า คือมันจะฉลาดเป็นอัตราเร่งครับ และนักวิทยาศาสตร์พยากรณ์ว่า ประมาณปี 2030 คืออีก 5 ปีข้างหน้า เราจะเห็นเจ้า ai ฉลาดกว่ามนุษย์ในทุกสาขาอาชีพเลย แต่ปัญหาคืออะไร มันก็คือ ความฉลาดที่ไม่มีความรักความเมตตา ผลลัพธ์จะลงเอยอย่างไรหล่ะครับ มนุษย์เรามีความฉลาดแต่เราก็ยังมีความรักความเมตตาต่อกันอยู่ใช่ไหมครับ แต่เจ้า ai มันไม่มีจิตวิญญาณที่มาจากพระเจ้า ตรงนี้แหละที่จะเป็นปัญหาและอันตรายมาก อันตรายยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์ 

แล้วคริสเตียนเราควรคิดและรู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่กล่าวมานี้ครับ พระคัมภีร์กล่าวไว้ในโรม 12:2 ว่า อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้  คนในยุคนี้ทำอะไร คนในยุคนี้กำลังพยายามอัพเกรดตัวเองด้วยเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์  ตอนนี้การอัปเกรดมนุษย์ก้าวหน้าไปถึงระดับ DNA..โดยความช่วยเหลือของเจ้า ai   แต่ข่าวประเสริฐ เสนอ การอัปเกรดที่สูงส่งและยั่งยืนกว่านั้นมากครับ นั่นคือการอัปเกรดในระดับ "จิตใจจิตวิญญาณ" ซึ่งไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น

ใน 2 โครินธ์ 5:17 มีเขียนไว้ว่า     “ฉะนั้นถ้าใครอยู่ในพระคริสต์ เขาก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะ สิ่งใหม่ๆ ก็เข้ามา”

การอัปเกรดที่แท้จริงที่มนุษยชาติโหยหา ไม่ใช่การพยายามแก้ไขรหัสพันธุกรรมให้มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม และมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ในโลกที่เสื่อมสลายด้วยความบาปนี้   แต่การอัพเกรดที่แท้จริง คือการได้กลับมาม่ีความสัมพันธ์คืนดีกับพระเจ้าผู้สร้างเราต่างหากครับ

โลก...พยายามจะแก้ไข "บั๊ก" ในร่างกายตัวเอง ด้วยเทคโนโลยี... แต่พระเยซูได้ทรงแก้ไข "บาป" ที่เป็นต้นตอของความเสื่อมสลายทั้งหมดให้เราแล้วที่ไม้กางเขน

โลก...พยายามจะ "เปลี่ยนแปลงแก้ไข เขียนโปรแกรมรหัสพันธุกรรมใหม่ในระดับ DNA" (Reprogramming)... แต่พระเจ้ามีพระประสงค์และน้ำพระทัยที่จะ "เปลี่ยนแปลงจิตใจ" (Transformation) ของเราโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โรม 12:2)  ซึ่งสวนทางกับของโลก

ดังนั้น หนทางสู่การเป็นเหมือนพระเจ้าที่แท้จริง จึงไม่ใช่การแก้ไขรหัสพันธุกรรม แต่คือการยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาแก้ไขจิตใจของเรา แล้วอุปนิสัยของเราจะเปลี่ยนใมห่ กลายเป็นคนมีความรัก, ชื่นชมยินดี และสันติสุข, มีความบริสุทธิ์เหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้นทุกวันครับ ดังนี้พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน

โรม 12:2 ว่า อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม อาเมนมั๊ยครับพี่น้อง 

พี่น้องที่รักครับ เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่น่าตื่นเต้น และท้าทายกับการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว  ขอหนุนใจให้เราอย่าได้หวาดกลัววิตกกังวลต่อเทคโนโลยีที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างผิดทางต่อพระประสงค์ของพระเจ้า  แต่ให้เราดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญาและความเข้าใจฝ่ายวิญญาณจากพระคัมภีร์แทน 

ขอให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับสติปัญญาความรู้ ที่ช่วยบรรเทาความทุกข์และรักษาชีวิต... แต่ในขณะเดียวกัน ก็ขอให้เราตระหนัก และระวังความหยิ่งจองหองที่พยายามจะเป็นพระเจ้าเสียเองด้วยครับ

และที่สำคัญที่สุด... ขอให้เราวางความหวังใจสูงสุดของเราไว้ กับการอัปเกรดที่แท้จริงและยั่งยืน คือการเป็นคนถูกสร้างใหม่ในพระเยซูคริสต์ เพราะนั่นไม่ใช่แค่การมีร่างกายที่หนุ่มสาวอายุยืนยาวขึ้น... แต่คือการได้มีชีวิตอยู่กับพระเจ้า... ตลอดไปชั่วนิรันดร์ต่างหากครับ

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ...

ข้าแต่พระบิดาเจ้าผู้ทรงเป็นพระผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ เราขอบพระคุณสำหรับสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ที่พระองค์ทรงประทานให้แก่มนุษย์ ขอทรงโปรดประทานสติปัญญาให้เรารู้จักใช้ของประทานเหล่านี้ด้วยใจถ่อมและเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ ขอทรงปกป้องเราจากความหยิ่งจองหองที่พยายามจะแทนที่พระองค์ และขอให้หัวใจของเรายึดมั่นในความหวังที่แท้จริง คือชีวิตใหม่และชีวิตนิรันดร์ที่พระองค์ทรงประทานให้เราผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์เจ้า... อาเมน