คลิปนี้เป็นตอนที่ 16 ของซีรีส์ **"ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์"** 🎯 ผ่านการเฝ้าเดี่ยวจาก **สดุดี 16** บทเพลงแห่งความไว้วางใจในพระเจ้า
🔥 **พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยของเรา** – ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าพระองค์!
🙏 **เรามีมรดกที่ดีในพระเจ้า** – ไม่ใช่เงินทองหรือสิ่งของ แต่เป็นพระองค์เอง!
💡 **เมื่อเราตั้งพระเจ้าไว้ตรงหน้าเสมอ เราจะไม่หวั่นไหว**
📌 ในคลิปนี้ ผมจะอ่านและแบ่งปัน **เรม่าห์** ที่ได้รับจากพระเจ้า พร้อมข้อคิดที่ช่วยให้คุณก้าวพ้นความขัดสนสู่ชีวิตอุดมสมบูรณ์ในพระองค์
📢 อย่าลืม! **หยุดพิจารณาและอธิษฐานตามทุกข้อ** เพื่อให้พระวิญญาณตรัสกับคุณโดยตรง 💖
**🔔 กดติดตาม & กดกระดิ่ง** เพื่อไม่พลาดคลิปเฝ้าเดี่ยวใหม่ๆ และแบ่งปันพระพรนี้ให้พี่น้องคนอื่นด้วยนะครับ!
#เฝ้าเดี่ยว #สดุดี16 #ชีวิตอัศจรรย์ #พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัย #ความอุดมสมบูรณ์ในพระองค์ ✨🙏
จัดทำคลิปโดย.... คุณบิ๊ก
พันธกิจ...Big Miracle
Line ID...BigBig477
www.bigmiracle.org
สวัสีดีครับพี่น้อง คลิปนี้เป็นบทที่ 16 ของซีรีย์ "ก้าวสู่ชีวิตอัศจรรย์" ด้วยการเฝ้าเดี่ยวจากพระคัมภีร์ สดุดี
ในสดุดีบทที่ 16 นี้ เป็นบทเพลงที่ดาวิดเขียนเพื่อแสดงความไว้วางใจในพระเจ้า และเขาประกาศความเชื่อว่า ความปลอดภัยและความสุขที่แท้จริงมาจากพระเจ้าเท่านั้น เป็นบทเพลงสดุดีที่สะท้อนถึง ชีวิตของดาวิด ที่พึ่งพิงพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง และในข้อท้ายๆ ก็มีการพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ด้วย
ผมจะอ่านช้าๆและใคร่ครวญไปทีละข้อดังนี้ครับ
สดุดีบทที่ 16 ข้อ1 ดาวิดกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพิทักษ์ข้าพระองค์ไว้ เพราะข้าพระองค์ลี้ภัยอยู่ในพระองค์
ให้คุณหยุดชั่วขณะในทุกๆข้อที่ผมอ่านนะครับ แล้วใคร่ครวญพร้อมอธิษฐานขอเรม่าห์พิเศษจากพระวิญญาณไปด้วย
สำหรับ เรม่าห์ที่ผมได้รับสำหรับข้อนี้คือ พระวิญญาณทำให้ผมระลึกได้ถึง
ยอห์น 10:28-29 ที่กล่าวว่า เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้แก่เราเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดอาจชิงแกะนั้นไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาของเราได้
แล้วพระวิญญาณก็หนุนใจผมว่า ดาวิดประกาศความเชื่อว่า เขาสามารถลี้ภัยในพระเจ้าได้ เขามั่นใจในความปลอดภัยเมื่อเข้ามาลี้ภัยในพระองค์ และสำหรับเจ้า เจ้าก็ลี้ภัยในพระเจ้าได้เช่นกัน เมื่อเจ้าต้อนรับพระเยซูคริสต์แล้ว เจ้าก็จะไม่พินาศเลย พระเยซูจะปกป้องคุ้มครองเจ้าให้ปลอดภัย เหมือนลูกแกะที่มีผู้เลี้ยงที่ดีเยี่ยม เมื่อคริสเตียนมอบถวายชีวิตกับพระเยซู ก็จะไม่มีใครชิงเอาแกะไปจากพระบิดาได้เลย
ถึงตรงนี้ผมก็นึกได้ถึงเหตุการณ์ในอดีตหลายๆครั้งที่ผมเผชิญหน้ากับปัญหาที่จู่โจมเข้ามา และผมก็เข้ามาลี้ภัยในพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์ก็นำทางผม พาผมก้าวผ่านเรื่องน่ากลัวไปได้อย่างอัศจรรย์ทุกครั้ง มันก็เป็นจริงตามพระสัญญาของพระเยซูในข้อนี้ และเมื่อไหร่ที่ผมเจอกับสถานการณ์ที่น่ากลัวอีก ผมก็จะประกาศความเชื่อคล้ายๆดาวิดเสมอว่า "พระบิดาเจ้า ลูกเป็นแกะของพระองค์ ลูกขอเข้าลี้ภัยในพระองค์ " ผมจะภาวนาประโยคนี้ จนความเชื่อดำดิ่งฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึก แล้วก็นอนหลับได้อย่างสบาย และก็เกิดการอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงนำผมออกจากความน่ากลัวของปัญหาได้ทุกครั้งครับ
ใน สดุดี 16:2-6 ดาวิดกล่าวว่า ข้าพเจ้าทูลพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่มีสิ่งดีใดเลย” 4แต่ผู้ที่หันหาพระอื่น ความทุกข์โศกของเขาก็ทวีขึ้น ริมฝีปากของข้าพเจ้าก็จะไม่ออกนามพระเหล่านั้นเลย 5พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้าและทรงเป็นจอกของข้าพเจ้า พระองค์ทรงรักษาส่วนมรดกของข้าพระองค์ไว้ 6เขตแดนของข้าพเจ้าเป็นที่ร่มรื่น เออ ข้าพเจ้ามีมรดกที่ดี
สำหรับข้อนี้เรม่าห์ที่ผมได้รับคือ พระวิญญาณหนุนใจผมว่า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้น ที่เป็นแหล่งของความดีแท้จริง เป็นแหล่งของทรัพยากรทุกอย่าง ถ้าเจ้ากำลังรู้สึกไม่มีความสุข เพราะรู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรบางอย่าง อย่าหันใจไปหาพระอื่นๆ แต่เจ้าจงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าการมีพระเจ้า พระองค์เป็นทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ
ถึงตรงนี้ ผมรู้สึกว่า จิตวิญญาณของผมได้รับการเติมเต็มอย่างล้นเลยครับ เพราะอะไรครับ ก็เพราะในบางเวลา ที่พระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐาน ผมก็รู้สึกถึงความขัดสนขาดแคลนอยู่บ้าง แล้วผมก็มักจะคิดถึงพระอื่น ทำนองว่า ถ้าฉันมีเงินเหลือเฟือ ฉันคงซื้อนั่นซื้อนี่ได้ ฉันคงทำนั่นทำนี่ได้เต็มที่ ฉันคงมีความสุขกว่านี้ นี่แหละครับพี่น้อง คือการหันใจไปหาพระอื่นๆ สำหรับคนในยุคนี้ พระอื่นๆไม่ได้หมายถึงรูปปั้นที่คนเคารพกราบไหว้บูชา แต่หมายถึงทรัพย์สินเงินทอง ที่เขาคิดว่าจะเติมเต็มเขาได้ทุกอย่าง แต่ดาวิดบอกว่า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้น ที่เป็นแหล่งทรัพยากรทุกอย่างของเขา เขาจะไม่ออกนามพระอื่นๆใดเลย แต่จะสรรเสริญพระเจ้าเท่านั้น พระองค์เป็นมรดกของเขา ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ นี่คือการประกาศความเชื่อของดาวิดครับ
คุณรู้มั๊ยครับว่า ยิ่งคุณจดจ่อกับความขัดสนขาดแคลน เจ้าความขัดสนขาดแคลนก็จะยิ่งขยายใหญ่โตขึ้น และยิ่งวิ่งเข้ามาหาคุณอย่างรวดเร็ว แล้วจะทำอย่างไรจึงจะไม่รู้สึกขัดสนขาดแคลน ทั้งๆที่กำลังขัดสนขาดแคลน เคล็ดลับก็คือ คุณต้องไม่คิดถึงความขัดสนขาดแคลน คุณต้องไม่คิดว่าคุณกำลังขัดสนขาดแคลน แต่คุณต้องคิดอย่างสวนสถานการณ์ในขณะนี้ครับ ถ้าคุณกำลังขัดสนหนัก หาเงินไม่พอใช้ หรือโดนเจ้าหนี้ทวงและหาเงินคืนเขาไม่ทันเวลา คุณต้องไม่เอาแต่เฝ้าบอกตัวเองว่า ฉันแย่แล้ว ฉันไม่มีเงินเลย เศรษฐกิจก็ไม่ดี ลูกค้าก็น้อยมาก ฉันไม่มีเงินทุนขยายธุรกิจ คุณเอาแต่เฝ้าคิดถึงสิ่งที่คุณไม่มี แล้วก็หดหู่ห่อเหี่ยวท้อแท้สิ้นหวังอยากตาย คุณรู้มั๊ยครับว่า ยิ่งคุณคิดถึงความขัดสนขาดแคลน เจ้าความขัดสนก็จะยิ่งวิ่งเข้ามาหาคุณครับ
ในสุภาษิต 23:7 กษัตริย์โซโลมอนผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกกล่าวไว้ว่า เพราะเขาเป็นเช่นดั่งคนที่คอยนับอยู่ข้างใน
เห็นมั๊ยครับพี่น้อง การคอยนับอยู่ข้างในว่าคุณขัดสนขาดแคลน คุณก็จะกลายเป็นคนขัดสนขาดแคลน ตามที่คุณคอยนับไว้ หรือเฝ้าคิดถึงมันนั่นแหละครับ คุณจะกลายเป็นสิ่งที่คุณเชื่อ
ดังนั้น เคล็ดลับคือ แม้ขณะที่สถานการณ์จริงคุณจะกภำลังขัดสนขาดแคลนหนัก คุณต้องฝึกมีสติ รู้ทันความคิดครับ คุณต้องรีบรู้ทันว่ากำลังคิดในโหมดความขัดสนขาดแคลนแล้ว คุณต้องรีบเปลี่ยนช่อง เปลี่ยนโหมดมาคิดถึงความอุดมสมบูรณ์ จะทำใได้อย่างไรทั้งๆที่กำลังขัดสนอยู่ ก็ทำได้โดยประกาศความเชื่อเหมือนดาวิดในพระคัมภีร์สดุดีข้อ 2-5 นี้ไงหล่ะครับ คุณต้องประกาศความเชื่อว่า พระเจ้าคือแหล่งของความดีแท้จริง พระเจ้าคือแหล่งของทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อคุณอยู่ในพระเจ้า คุณก็อุดมสมบูรณ์ด้วย คุณต้องจดจ่อที่ความอุดมสมบูรณ์ไร้ขีดจำกัดของพระเจ้า คุณต้องทำให้จิตใต้สำนึกของคุณเชื่ออย่างหนักแน่นมั่นคงว่า พระเจ้าเป็นแหล่งของทรัพยากรทุกอย่าง คุณไม่มีวันขัดสนเลย แม้สถานการณ์ภายนอกจะกำลังขัดสน แต่ข้างในจิตวิญญาณของคุณต้องไม่รู้สึกขัดสนครับ คุณต้องเต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อในความอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้า และพระองค์คือพระบิดาที่รักคุณและพร้อมจะเติมเต็มสิ่งที่คุณขาดอยู่อย่างเพียงพอ ไม่ใช่แค่เพียงพอ แต่ยังล้นเหลือเพื่อแจกจ่ายแบ่งปันคนอื่นอีกด้วยครับ
ทุกวันนี้ ผมเองจะประกาศความเชื่อทุกครั้งที่รู้ทันความคิดลบๆของการรู้สึกขัดสนขาดแคลนทันที ผมไม่ปล่อยให้ความรู้สึกขัดสนขยายใหญ่โตขึ้น แต่จะพูดประกาศความเชื่อดังๆกับตัวเองว่า
"ฉันมีทุกสิิ่งอุดมสมบูรณ์ล้นเหลือ เพราะฉันเป็นลูกพระเจ้า และพระองค์ไม่เคยขัดสน พระองค์เป็นพระเจ้าผู้สร้างโลกสร้างจักรวาล พระองค์ทรงเป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง พระองค์เปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ฉันจึงอุดมสมบูรณ์ด้วย เพราะฉั้นเป้นลูกสุดที่รักของพระองค์ "
ไฮไลท์สำคัญคือ คุณต้องฝึกที่จะรู้เท่าทันความคิดลบๆที่จู่โจมเข้ามานะครับ ความคิดลบๆที่เฝ้าคิดถึงแต่ความขัดสนขาดแคลน ไม่ควรปล่อยให้ฝังในจิตใต้สำนึกของคุณ คุณต้องว่องไวรู้ทันแล้วรีบแทนที่ด้วยความบวกๆว่า คุณเป็นลูกสุดที่รักของพระเจ้า และพระองค์อุดมสมบูรณ์ล้นเหลือ ในพระองค์ไม่มีความขัดสนขาดแคลนเลย ดังนั้น คุณจึงไม่ขัดสนขาดแคลนด้วย เมื่อคุณจดจ่อประกาศความเชื่อเช่นนี้ไว้ตลอดเวลา จิตวิญญาณคุณจะฮึกเหิมเข้มแข็งขึ้น มีชีวิตชีวาไม่ซึมเศร้าอยากตาย แต่จะคึกคักกระตือรือร้น คุณจะเริ่มมีมุมมองใหม่กับสถานการณ์รอบตัว คุณจะเริ่มมองเห็นโอกาสดีๆใหม่ๆทีพ่ระเจ้าส่งเข้ามา ซึ่งคุณอาจเคยมองข้ามไปเพราะความหดหู่ท้อแท้กับความขัดสนขาดแคลน แต่เมื่อจิตวิญญาณภายในคุณรู้สึกอุดมสมบูรณ์ คุณก็จะเห็นโอกาสดีๆที่เคยมองข้ามอย่างคาดไม่ถึง แล้วคุณก็จะมีพลังที่จะคว้าโอกาสดีๆนั้นไว้ได้ด้วย ซึ่งทำให้คุณหลุดพ้นจากความขัดสนขาดแคลนได้อย่างอัศจรรย์เลยครับ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกขัดสนขาดแคลนฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกนะครับ ให้รีบขุดรากถอนโคนความเชื่อด้านลบแบบนี้ออกจากจิตใต้สำนึกของคุณ แล้วระลึกไว้เสมอว่า พระเจ้าเป็นแหล่งของทรัพยากรทุกสิ่ง และพระองค์รักคุณปานแก้วตาดวงใจ พระองค์จะเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงให้ เมื่อคุณจดจ่อที่ความยิ่งใหญ่ไร้ขีดจำกัดของพระองค์ จดจ่อที่พระสัญญาแห่งความเมตตาของพระองค์ คุณก็จะไม่ขัดสนขาดแคลนเลยอย่างอัศจรรย์ครับ
ใน สดุดี 16:7-9 ดาวิดกล่าวว่า 7ข้าพเจ้าถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานคำปรึกษาแก่ข้าพเจ้า เออ ตอนกลางคืนจิตใจของข้าพเจ้าเตือนสอนข้าพเจ้า 8ข้าพเจ้าตั้งพระยาห์เวห์ไว้ตรงหน้าเสมอ เพราะพระองค์ประทับที่ขวามือ ข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นไหว 9เพราะฉะนั้น ใจข้าพเจ้าจึงยินดีและจิตวิญญาณก็เปรมปรีดิ์ ร่างกายของข้าพเจ้าก็อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยด้วย
เรม่าห์ที่ผมได้รับคือ พระวิญญาณเตือนสติผมไม่ให้หลงลืมไปว่า พระเจ้าจะเป็นที่ปรึกษาให้ผมได้ทุกเรื่อง พี่น้องที่รัก ถ้าขณะนี้คุณกำลังสับสน ไม่รู้ว่าจะซ้ายหรือขวา จะเดินหน้าหรือถอยหลัง ไม่รู้จะตัดสินใจทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาตรงหน้า ขอหนุนใจให้คุณอธิษฐานขอสติปัญญา ให้คุณมองเห็นการจัดเตรียมและการนำทางของพระองค์ และให้คุณขอบคุณพระเจ้าล่วงหน้าได้เลย เพราะพระองค์จะทรงนำคุณแม้ในเวลาที่ยากลำบาก ดาวิดกล่าวว่า แม้ในยามค่ำคืน จิตใจของเขาก็สอนเขาให้ไว้วางใจพระเจ้า ตรงนี้หมายถึง จิตใต้สำนึกของเขามีความเชื่อวางใจพระเจ้า ซึ่งเจ้าจิตใต้สำนึกนี่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทั้งยามหลับและยามตื่นนะครับ เวลาคุณนอนหลับ จิตใต้สำนึกทำให้คุณฝันครับ และถ้าคุณเก็บความคิดลบๆไว้มากในจิตใต้สำนึก เวลาหลับคุณก็จะฝันร้ายครับ แต่ดาวิดเขาไม่เป็นอย่างนั้น เขาเก็บความเชื่อวางใจพระเจ้าไว้ในจิตใต้สำนึก ดังนั้น ในเวลาที่หลับยามค่ำคืน จิตใจทีเป็นส่วนของจิตใต้สำนึก ก็สอนเขาให้ไว้วางใจพระเจ้า ตั้งพระเจ้าไว้ตรงหน้าเสมอ จึงทำให้เขานอนหลับได้สบายไม่หวั่นไหวหวาดกลัวสิ่งใดๆ จิตวิญญาณก็เปรมปรีด์ และร่างกายก็มีสุขภาพดีปลอดภัยจากเหตุร้ายด้วย นี่คือพลังของความเชื่อวางใจพระเจ้าที่ฝังลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึก เชื่อทั้งยามหลับและยามตื่นครับ แล้วการอัศจรรย์ผ่าทางตันจะเกิดขึ้นกับชีวิตคุณครับ
ใน สดุดี 16:10 ดาวิดกล่าวว่า พราะพระองค์จะไม่ทรงมอบข้าพเจ้าไว้แด่แดนคนตาย และจะไม่ทรงให้ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เห็นความเปื่อยเน่า"
เรม่าห์ที่ผมได้รับคือ ตรงนี้ดาวิดพยากรณ์ถึงพระเยซูคริสต์ ซึ่งฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย และเป็นหลักประกันว่า ผู้ที่เชื่อในพระองค์ก็จะได้รับชีวิตนิรันดร์ครับ
ในข้อ 11 กล่าวว่า "พระองค์ทรงสำแดงวิถีแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ ความชื่นชมยินดีบริบูรณ์อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ และที่พระหัตถ์ขวาของพระองค์มีความสุขอยู่เป็นนิตย์"
เรม่าห์ที่ผมได้รับคือ พระเจ้าจะทรงนำเราไปสู่ชีวิตที่แท้จริง และความสุขที่ครบบริบูรณ์ล้น ด้วยการมีชีวิตอยู่กับพระองค์และในพระองค์ครับ
ดังนั้น ถ้าคุณกำลังแสวงหาความสุข ให้แสวงหาพระเจ้าแทน เพราะความสุขแท้จริงไม่ได้อยู่ในสิ่งของ แต่ อยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้าครับ
🔥 สรุปเรม่าห์จากสดุดี 16
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่ามีเหตุร้ายเข้ามาจู่โจมคุณ ให้อ่านข้อ 1 ซ้ำบ่อยๆ และวางใจว่า พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยของคุณได้อย่างแน่นอน
ถ้าคุณกำลังรู้สึกกังวลหวาดกลัวเกี่ยวกับอนาคต ให้อ่านข้อ 2-6 ซ้ำบ่อยๆ และวางใจว่าพระเจ้าจะทรงดูแลและจัดเตรียมให้ในทุกความจำเป็นของคุณ
ถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหาและรู้สึกเครียด ให้อ่านข้อ 8 ซ้ำบ่อยๆ และตั้งพระเจ้าไว้ตรงหน้าเสมอ หมายถึงให้จดจ่อที่ความยิงใหญ่ไร้ขีดจำกัดของพระเจ้า อย่ามัวจดจ่อที่ปัญหาครับ
ถ้าคุณกำลังแสวงหาความสุขที่แท้จริง → อ่านข้อ 11 ซ้ำบ่อยๆ และใช้เวลาเข้าใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้าให้มากขึ้น
เอาหล่ะครับ มาร่วมสนุกกัน เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ คุณได้รับเรม่าห์อะไร ก็ให้เขียนคอมเม้นท์ลงในใต้คลิปนี้นะครรับ คุณเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้แล้วหรือยังว่า คุณจะเข้าลึ้ภัยได้ทุกเมื่อในพระเจ้า ? คุณสามารถวางใจในความอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้าได้ และคุณจะไม่ขัดสนเลยในฐานะลูกสุดที่รักของพระองค์? คุณจะได้รับการนำทางในการตัดสินใจอย่างถูกต้อง ? คุณจะนอนหลับสบายเมื่อจิตวิญญาณของคุณเชื่อมั่นวางใจในพระเจ้า และคุณจะมีความสุขในชีวิตโดยไม่ขึ้นอยู่กับการมีสิ่งของมากมาย แต่ขึ้นอยู่กับการมีพระเจ้าต่างหาก เมื่อได้พระเจ้า ก็คือได้ทุกสิ่ง
เข้าเฝ้าพระเจ้าวันนี้ ให้คุณหยุดและอธิษฐานขอพระวิญญาเปิดเผยสำแดงให้คุณได้รู้ว่า คุณเป็นคนอย่างไร ? คุณมักคิดว่า คุณขัดสนขาดแคลนหรือไม่? คุณมักคิดวนเวียนถึงสิ่งที่คุณไม่มี โดยไม่ได้คิดถึงสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วหรือไม่อย่างไร? คุณมักจดจ่อถึงความยิ่งใหญ่ของปัญหา มักจดจ่อถึงความจำกัดของตัวเองหรือเปล่า? คุณมักหลงลืมไปว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่งและไร้ขีดจำกัดใดๆหรือไม่? และคุณมักแสวงหาความสุขจากการได้มีสิ่งของต่างๆมาเติมเต็ม หรือคุณมีความสุขแล้วกับการได้มีพระเจ้าสถิตในชีวิตคุณตลอดเวลา? ให้คุณอธิาฐานขอพระวิญญาณเปิดเผยให้คุณได้รับรู้นะครับ
พรุ่งนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยกัน เพื่อจะรับการเปลีี่ยนแปลงจากพระวิญญาณ แล้วชีวิตคุณจะไม่ขาดการอัศจรรย์เลย คุณจะกลายเป็นท่อพระพรใหญ่สู่ผู้คนในวงกว้างมากมายได้ อาเมนมั๊ยพีน้อง ขอพระเจ้าอวยพร